“ออรัลให้หน่อยสิ”
มือเรียวกำเข้าหากันแน่น ครุ่นคิดอยู่นานเป็นนาที ท้ายที่สุดความยับยั้งชั่งใจและความรู้สึกผิดชอบชั่วดีก็พ่ายแพ้ให้แก่ความกระสันอยากที่มีมากกว่าสิ่งใด กลิ่นสารระเหยบางเบาที่ลอยวนอยู่ในอากาศเรียกร้องให้ขยับกายเข้าหา ซอกจินเดินมาคุกเข่าลงตรงกลางหว่างขาของคนอายุน้อยกว่า เอื้อมมือสั่นเทาไปปลดเข็มขัดหนังราคาแพงออก ตามด้วยกระดุมกางเกงและซิบสีเงินที่ถูกปลดเปลื้องเป็นลำดับถัดไป เขาร่นชั้นในสีเข้มลง กอบกุมแกนกลางลำตัวที่ยังขยายไม่เต็มที่ไว้ในอุ้งมือร้อน รูดรั้งมันเบาๆด้วยความกล้าๆกลัวๆ จนอีกคนต้องออกคำสั่งเสียงเข้ม
“ให้ใช้ปาก ไม่ได้ให้ใช้มือ” ดวงตากลมโตตวัดมองอย่างไม่พอใจกับคำเร่งรัดนั้น ยิ่งเห็นว่าเขาเสียเปรียบคนใจร้ายก็ยิ่งกลั่นแกล้ง ชั่วครู่หนึ่งที่ซอกจินมีความคิดว่าอยากเลิกทำ แต่เมื่อเห็นร่างสูงนำคริสตัลมาเสพให้ดูต่อหน้าอีกครั้ง เขาก็กลั้นใจจรดริมฝีปากลงไปบนแท่งเนื้อที่เริ่มจะแข็งขืนสู้มืออย่างเสียไม่ได้ อาการปวดหัวที่กำเริบขึ้นมาอีกรอบบีบบังคับให้ต้องลงมือทำโดยไม่มีทางเลือก
ปากอวบอิ่มกดจูบเบาๆที่ส่วนปลาย ไล่เรื่อยไปยังโคนและวกกลับมาลงลิ้นหนักๆที่รอยหยักตรงกลาง เรียวลิ้นอุ่นร้อนลากสัมผัสชื้นแฉะไปตามความยาว ทำต่อเนื่องอยู่สองสามครั้งแล้วก็เปลี่ยนเป็นครอบครองความรุ่มร้อนทั้งหมดเข้าไปในโพรงปาก เขาขยับศีรษะขึ้นลงพร้อมกับดูดดุนท่อนเอ็นขนาดใหญ่จนเกิดเสียงดังไปทั่วห้องกว้าง ใบหน้าหวานเห่อร้อนแดงก่ำด้วยความอายปนกับความรู้สึกผิดต่อเพื่อนสนิท ต่างจากคนถูกปรนเปรอที่ครางเบาๆในลำคออย่างพึงพอใจและคว้าแก้วไวน์แดงที่วางอยู่บนโต๊ะใกล้ๆมาดื่มอย่างสบายอารมณ์
“..อื้อ..” ซอกจินเผลอร้องออกมาเมื่อส่วนแข็งขืนขยายตัวเต็มที่จนพองคับปากไปหมด เขาโลมเลียมันลำบากขึ้นจนต้องใช้มือเข้าช่วยชักรูดส่วนโคนถี่ๆขณะที่ริมฝีปากก็ยังครอบอมส่วนหัวไว้ด้วยจังหวะหนักหน่วงจนเริ่มมีน้ำสีขุ่นปริ่มออกมาตรงปลายยอด
“...อืม..พอก่อน..” จองกุกใช้มือข้างที่ว่างจากการจับแก้วทรงสูงเชยปลายคางมนขึ้นมา น้ำใสๆที่เชื่อมโยงเป็นสายระหว่างแกนกายของเขากับปากอิ่มของคนที่นั่งคุกเข่าอยู่กลางหว่างขาช่างเป็นภาพที่อีโรติกอย่างบอกไม่ถูก แม้เสื้อผ้าจะยังไม่ถูกลิดรอนออกไปจากกายบางสักชิ้น แต่มันก็กระตุ้นอารมณ์ดิบในส่วนลึกได้ไม่น้อยทีเดียว
ซอกจินทำหน้างุนงงที่คนเอาแต่ใจยอมให้หยุดการกระทำง่ายๆ เขาเกือบจะคิดว่าอีกฝ่ายใจดีกว่าที่คาดไว้ แต่ไม่นานความคิดนั้นก็ต้องพังครืนลงไปเพราะประโยคคำสั่งเห็นแก่ได้เอื้อนเอ่ยเป็นลำดับต่อมา
“ช่วยตัวเองซิ”
“..อะไรนะ?..”
“อย่าลีลา ผมรู้ว่าพี่เก่งเรื่องแบบนี้”
เป็นอีกครั้งที่ซอกจินกลืนไม่เข้าคายไม่ออกกับคำประกาศิตแสนร้ายกาจ แม้ภายในใจส่วนลึกจะเอ่ยคัดค้าน แต่ความกระดากอายเหล่านั้นก็ถูกแรงปรารถนาบดบังกดทับจนเลือนรางแทบมองไม่เห็น นาทีนี้เขาไม่รู้ว่าความถูกต้องหน้าตาเป็นแบบไหน รู้แค่ว่าต้องทำให้คนตรงหน้าพอใจ เขาจึงจะได้ในสิ่งที่ต้องการ
ร่างผอมบางขยับไปนั่งบนพรมขนสัตว์ผืนใหญ่ด้านหน้าโซฟาตัวยาว สองมือค่อยๆรั้งกางเกงยีนส์ออกไปจากเรียวขาสีน้ำนมไร้รอยตำหนิ ใช้เวลาเพียงชั่วอึดใจร่างกายท่อนล่างก็เปลือยเปล่า เขาชันขาทั้งสองข้างขึ้น ลูบไล้ฝ่ามือและปลายนิ้วไปตามแผ่นอก หน้าท้อง และเอื้อมลงมากอบกุมส่วนไวต่อสัมผัสเอาไว้
“อ้าขากว้างๆ” น่าแปลกที่ซอกจินดันมีอารมณ์ง่ายๆกับคำพูดหยาบโลนและสายตาร้อนแรงคู่นั้น เรียวขาขยับแยกออกจากกันตามคำสั่ง เผยให้เห็นส่วนสัดแสนน่ามองตั้งแต่แกนกลางลำตัวสีชมพูสวยไปจนถึงช่องทางอ่อนนุ่ม มือข้างหนึ่งเริ่มเคลื่อนไหวขึ้นลงช้าๆ ครั้งแรกกับการปรนเปรอตัวเองให้คนอื่นดูมันชวนให้รู้สึกขัดเขินไม่น้อย แต่เขาก็ไม่ได้ไร้เดียงสาจนไม่กล้าที่จะทำ
“...อา...” ครางออกมาเบาๆในตอนที่ส่งก้านนิ้วยาวชำแรกเข้าไปในช่องทางด้านหลัง เมื่อเริ่มคุ้นชินก็แทรกนิ้วที่สองเพิ่มเข้ามา ซอกจินเงยช้อนมองเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่บนโซฟา แต่เพียงครู่เดียวก็ต้องเสใบหน้าเห่อร้อนหลบสายตาคมกริบไปทางอื่น ไม่รู้ว่าเด็กอายุสิบเก้าอย่าง จอน จองกุก เจนจัดช่ำชองกับเรื่องแบบนี้ขนาดไหน ถึงยังคงนั่งจิบไวน์อย่างสบายอกสบายใจราวกับการกระทำเข้าข่ายวิตถารนี้เป็นเรื่องปกติ ต่างจากเขาที่เขินอายจนร่างกายร้อนรุ่มไปหมด
เครื่องดื่มสัญชาติฝรั่งเศสสีแดงสดอมม่วงพร่องไปเกือบครึ่งแก้ว ปฏิเสธไม่ได้ว่าไวน์ชั้นเลิศกับเรือนร่างบอบบางบนพื้นพรมขนสัตว์ช่างเข้ากันอย่างน่าประหลาด เพียงแค่จับจ้องด้วยสายตาก็พาให้ความคบเครียดแน่นตึงช่วงกลางลำตัวปวดหนึบ เสียงร้องหวานหูในตอนที่มือเรียวคู่นั้นชักนำตัวเองไปถึงปลายทางแห่งความปรารถนาเป็นเสมือนตัวกระตุ้นให้เลือดในกายพลุ่งพล่าน เมื่อของเล่นชิ้นที่สิบสี่ทำผลงานได้น่าพอใจ เขาก็ลุกไปหยิบรางวัลมามอบให้ตามสัญญา
ซอกจินหอบหายใจอย่างเหนื่อยล้าหลังจากปลดปล่อยไปหนึ่งรอบ ดวงตากลมโตมองตามแผ่นหลังกว้างที่เดินไปหยิบอะไรบางอย่างก่อนจะวกกลับมาหา เด็กหนุ่มตัวสูงย่อตัวลงนั่งใกล้ๆ ดึงแขนข้างซ้ายเขาไปแล้วใช้นิ้วโป้งกดคลึงตรงข้อพับ วินาทีนั้นเขาเห็นกระบอกฉีดยาบรรจุสารสีใสที่อีกคนถือไว้ในมือขวา ปลายเข็มสีเงินวาววับสะท้อนกับแสงไฟ ...ไม่รอให้เอ่ยถามอะไร เด็กหนุ่มก็จัดการจรดวัตถุแหลมคมลงกับผิวเนื้อเนียน แทงทะลุส่วนที่เป็นหลอดเลือดดำแล้วฉีดของเหลวไร้สีเข้าไปจนหมดทุกหยาดหยด
“รางวัลของพี่ เอาไปหนึ่งเข็มก่อนนะครับ”
“..อ๊า!..” เผลอกรีดร้องเสียงสูงเพราะความเจ็บแปลบที่เกิดขึ้นบริเวณข้อพับโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ซอกจินหลับตาเชิดใบหน้าขึ้นเมื่อยาเริ่มออกฤทธิ์ ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีเมทแอมเฟตามีนก็แทรกซึมเข้าสู่ทุกอณูในร่างกาย อาการปวดศีรษะที่มีก่อนหน้านี้ค่อยๆทุเลาลงจนหายเป็นปลิดทิ้ง ความทรมานถูกเยียวยารักษาและแทนที่ด้วยความรู้สึกปลอดโปร่งซาบซ่าน สมองของเขาว่างเปล่าขาวโพลน ตัวก็เบาหวิวอย่างควบคุมไม่ได้ ถูกพาเข้ามาในห้องนอนตอนไหนก็ไม่รู้ แม้แต่ตอนที่ร่างสูงผลักลงไปนอนราบกับลานเตียงกว้างเขาก็ยังไม่ขัดขืน
เด็กหนุ่มอายุอ่อนกว่าแต่มากด้วยประสบการณ์ตามมาโถมตัวขึ้นคร่อม ใบหน้าคมคายจ้องมองมาด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก ซอกจินจำอะไรไม่ได้มากนัก มีเพียงรอยยิ้มมุมปากคล้ายกับจะเย้ยหยันที่ยังคงติดตา และเสียงทุ้มแหบพร่าที่กระซิบลงข้างหู
“ยินดีต้อนรับเข้าสู่สวรรค์ชั้นสิบสี่อย่างเป็นทางการ”
ริมฝีปากหยักประกบลงมาอย่างจาบจ้วงเอาแต่ใจ ขบกัดจนเรียวปากอิ่มแทบปริแตก ก่อนจะไล่เรื่อยไปตามผิวกายขาวผ่องตั้งแต่ต้นคอลงมาจนถึงเนินอก เสื้อผ้าอาภรณ์ถูกปลดเปลื้องลงไปกองบนพื้นข้างเตียงอย่างไม่ใส่ใจ ร่างเปลือยเปล่าของคนสองคนโรมรันกอดรัดมอบสัมผัสร้อนรุ่มให้แก่กัน ฤทธิ์สารเสพติดที่รับเข้าไปก่อนหน้านี้เป็นเหมือนเชื้อเพลิงชั้นดีที่กระตุ้นให้ไฟสวาทโหมกระหน่ำ
“..อ๊ะ.. อื๊ออ..” เสียงหวานร้องครางอย่างไม่อาจกลั้น ลิ้นร้อนหยอกเย้ากับยอดอก มือหนาลูบไล้บีบเค้นไปทั่วร่าง ทุกอย่างที่ประกอบกันเป็นผู้ชายชื่อ จอน จองกุก กำลังแผดเผา คิม ซอกจิน ให้หลอมละลาย ยิ่งเมื่ออีกฝ่ายสอดใส่ความแข็งขืนดุดันเข้ามาในช่องทางรัก ดวงตากลมโตก็พร่าเลือนไปหมดเพราะความวาบหวามรัญจวนใจที่ตีตื้นขึ้นมาจนเหมือนจะสำลักความสุขสมนี้เสียให้ได้
จังหวะการกระแทกกระทั้นหนักหน่วงรุนแรงแทบลืมหายใจ สารเสพติดแสนอันตรายกระตุ้นให้ร่างกายไวต่อสัมผัสไปเสียทุกส่วน แม้จะมีพื้นผิวเรียบลื่นของเครื่องป้องกันสีใสมาขวางกั้นไว้ แต่ซอกจินก็รู้สึกถึงตัวตนขนาดใหญ่ของคนที่กำลังร่วมรักอยู่ได้อย่างชัดเจน ความกระสันเสียวเอ่อล้นจนต้องหลั่งน้ำตา คล้ายกับจะมองเห็นแสงสว่างจากปลายทางแห่งแรงปรารถนาอยู่รำไร ...ซอกจินไม่รู้ว่าสวรรค์มีทั้งหมดกี่ชั้น ..ห้า ..หรือ เจ็ด ..หรือ เก้า ทว่าวินาทีนี้เขาเหมือนจะล่องลอยไปได้สูงกว่านั้นมาก ...บางที เขาอาจจะกำลังอยู่บนสวรรค์ชั้นที่สิบสี่อย่างที่อีกคนว่าเอาไว้จริงๆก็ได้
“...จองกุก..อ๊ะ..จองกุก..” เรียวปากอิ่มพร่ำเอ่ยชื่อคนด้านบนซ้ำๆ เรือนร่างบอบบางโยกคลอนไปตามแรงที่สะโพกสอบกดสวนเข้ามา เล็บคนจิกครูดแผ่นหลังกว้างเป็นทางยาวเพื่อระบายความเสียวซ่าน ร่างหนั่นหนาโถมกายเข้าหาความอุ่นร้อนที่โอบรัดตัวตนเอาไว้จนแทบคลั่งอยู่สักพัก ไม่นานสายธารอารมณ์สีขุ่นของคนสองคนก็ถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมๆกัน