“แต่ฉันยังไม่ง่วงนี่..”
นัมจุนเอ่ยอย่างเอาแต่ใจก่อนจะพลิกตัวขึ้นมาคร่อมเอาไว้โดยไม่ได้ยี่หระต่อเสียงห้ามปรามจากคนใต้ร่าง จัดการหยุดเสียงบ่นน่ารำคาญด้วยรสจูบดูดดื่มที่บดเบียดลงไปบนเรียวอิ่มตึงอย่างเร่งเร้า ฟันคมขบลงที่ริมฝีปากล่างเพื่อให้อีกคนยอมเปิดทางให้ลิ้นร้อนได้แทรกเข้าไปรุกล้ำเก็บเกี่ยวความหอมหวานจากภายใน แลกสัมผัสชื้นแฉะในโพรงปากอุ่นจนเกิดเสียงที่ชวนให้แก้มใสต้องขึ้นสีระเรื่อ คำห้ามปรามต่างๆนานาเริ่มเปลี่ยนเป็นเสียงครางอื้ออึงในลำคออย่างห้ามไม่ได้เมื่อร่างสูงเกี่ยวกระหวัดรุกล้ำอย่างช่ำชองเสียจนเกือบลืมหายใจ
คนด้านบนละริมฝีปากออกด้วยความเสียดายเพราะแรงบีบและแรงทุบตีที่หัวไหล่หนาบอกให้เขารู้ว่าควรจะพอก่อนที่อีกคนจะขาดอากาศหายใจไปเสียก่อน แต่มีหรือที่ คิม นัมจุน จะหยุดอยู่เพียงเท่านั้น ปล่อยให้ร่างบอบบางพักหอบหายใจเอาออกซิเจนเข้าปอดได้ไม่นาน เขาก็บดเบียดริมฝีปากลงไปใหม่ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง มือหนาเลื่อนลงไปริดกระดุมชุดนอนสีเข้มออกทีละเม็ดทีละเม็ด ผิวขาวเนียนไร้รอยตำหนาที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าเรียกให้เขาต้องโน้มลงไปฝากฝังรอยรักสีสวยไว้บนลาดไหล่กว้างและแผ่นอกบางอย่างย่ามใจ
“อ๊ะ..คุณ..” หลับตากัดปากตัวเองเพื่อไม่ส่งเสียงน่าอายออกไปแต่ก็ดูเหมือนจะทำได้ยากเย็นเหลือเกินในตอนที่คนด้านบนกำลังลงลิ้นหยอกล้อกับยอดอกสีระเรื่อข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างก็ใช้มือคลึงเล่นอย่างปลุกเร้าอารมณ์ ซอกจินนึกเกลียดร่างกายไม่รักดีของตัวเองขึ้นมาทันทีที่มันช่างแสนซื่อตรงและยอมโอนอ่อนให้กับคนตรงหน้าง่ายๆ แม้ในความคิดจะพยายามปฏิเสธเท่าไหร่ แต่สุดท้ายเขาก็ต้องเผลอแอ่นอกรับสัมผัสซ่านเสียวนั้นอย่างลืมตัวทุกครั้ง
“ร้องดังๆได้ไหม..อยากฟัง” ร่างสูงเงยหน้าขึ้นมากระซิบชิดริมฝีปากนุ่ม ก่อนจะแกล้งสอดมืออุ่นร้อนต่ำลงไปในกางเกงนอนตัวบางเมื่อเห็นคนใต้ร่างรีบยกมือขึ้นมาปิดปากแล้วส่ายหน้าเป็นเชิงปฏิเสธ เขาเลื่อนมืออ้อมไปด้านหลัง สอดผ่านชั้นในแล้วเคล้นคลึงเนื้อนิ่มกลมกลึงอย่างสนุกมือ ในขณะที่สันจมูกโด่งก็เริ่มไล้ไปตามต้นขอขาวเนียนโดยไม่สนใจคนด้านล่างที่พยายามดันแผ่นอกแกร่งออกห่าง
“มะ..ไม่เอา.. พอแล้ว” เสียงหวานร้องห้ามอีกครั้งเมื่อร่างสูงปลดเปลื้องอาภรณ์ทุกชิ้นของเขาลงไปกองอยู่ข้างเตียง เรียวขาสีน้ำนมขยับเข้าหากันอย่างเขินอายเพราะสายตาร้อนแรงจ้อมองมาที่เรือนร่างของตน แต่อีกคนก็ยังไม่หยุดแกล้ง มือหนาค่อยๆจับขาเรียวทั้งสองข้างตั้งชันขึ้นแล้วแยกออกจากกับช้าๆ เรียกสีเลือดฝาดจางๆให้ระบายบนพวงแก้มใสจนคนคนถูกมองต้องเสหน้าหลบไปทางอื่น
“..อย่ามอง...”
“ห้ามได้ด้วยเหรอ หืม?..” ยกยิ้มมุมปากก่อนจะเลื่อนมือลงไปกอบกุมส่วนไวต่อความรู้สึกแล้วเริ่มขยับขึ้นลงเบาๆ ดวงตากลมสีดำขลับตวัดมองกลับมาที่เขาดุๆเหมือนจะต่อว่าในคำพูดเอาแต่ใจแบบนั้น แต่ไม่นานก็ต้องซบหน้าลงกับบ่าแกร่งเมื่อมือใหญ่แกล้งขยับไหวให้เร็วขึ้น
คนใต้ร่างผวากอดเขาแน่น จิกเล็บลงกับลาดไหล่หนาเพื่อระบายความเสียวซ่านที่ได้รับจาดอุ้งมือร้อน ซอกจินกัดปากตัวเองจนเกือบได้เลือดเพื่อไม่ให้ส่งเสียงน่าอายออกไปในตอนที่อารมณ์กำลังขึ้นถึงจุดสูงสุดและปลดปล่อยแรงรักสีขาวขุ่นออกมาเต็มมือใหญ่
“อยากร้องก็ร้องออกมาสิ เก็บไว้ทำไม?” ยกมือขึ้นมาลูบริมฝีปากอิ่มตึงแผ่วเบาทว่าอีกคนก็สะบัดหน้าหนีอย่างไม่ใยดี
“..ไม่..” คำปฏิเสธเสียงแข็งของ คิม ซอกจิน เรียกรอยยิ้มมุมปากจาก คิม นัมจุน ได้เป็นอย่างดี ร่างกำยำโน้มลงไปกระซิบชิดใบหูนุ่มแล้วแกล้งสอดลิ้นร้อนเข้าไปข้างในอย่างยั่วเย้า
“สาบานได้ว่าต่อไปนายจะไม่พูดแบบนี้.. ที่รัก..”
ร่างสูงหยัดตัวขึ้นเอื้อมไปหยิบของบางอย่างออกมาจากลิ้นชักบนโต๊ะใกล้ๆหัวเตียง เขาแกะซองสีแดงมันวาวออกพลางปลดกางเกงนอนตัวเองลงแล้วสวมมันกับส่วนแข็งขืนที่กำลังขยายตัวอย่างเต็มที่ นัมจุนโถมตัวลงมาทาบทับอีกครั้ง ค่อยๆกดแทรกแกนกายอุ่นร้อนเข้าไปภายในช่องทางคับแคบ เล็บคมจิกครูดแผ่นหลังกว้างเป็นทางยาวเมื่อคนข้างบนเริ่มออกแรงเคลื่อนกายเข้าออกเร็วและแรงขึ้นเรื่อยๆ ส่วนไวต่อความรู้สึกกดเน้นย้ำๆตรงจุดกระสัน ความซ่านเสียวแทรกซึมไปทั่วสรรพางค์กายจนร่างบอบบางบิดเร่าและอดไม่ได้ที่จะต้องร้องครางเสียงหวาน ...ไม่มีสักครั้งที่ คิม ซอกจิน จะต้านทานผู้ชายตรงหน้าได้ คิม นัมจุน รู้ดีเสมอว่าต้องทำอะไรตรงไหนเขาถึงจะยอมโอนอ่อนผ่อนปรนให้โดยดี
“อืมม..” ร่างหนั่นหนาครางเสียงต่ำในลำคอเมื่อรู้สึกได้ถึงความอุ่นร้อนด้านในที่โอบรัดเขาไว้เป็นจังหวะถี่ๆจนแทบคลั่ง และเขาเองก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเองกำลังหลงใหลคลั่งไคล้คนคนนี้อย่างถอนตัวไม่ขึ้น ไม่ต่างอะไรกับที่ตัวเขาเองติดสารพิษแสนหอมหวานพวกนั้น...
continue reading >> Nicotine
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น