วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

[SF] :: 14th Heaven - KookJin[3] (cut)




 ออรัลให้หน่อยสิ


มือเรียวกำเข้าหากันแน่น ครุ่นคิดอยู่นานเป็นนาที ท้ายที่สุดความยับยั้งชั่งใจและความรู้สึกผิดชอบชั่วดีก็พ่ายแพ้ให้แก่ความกระสันอยากที่มีมากกว่าสิ่งใด กลิ่นสารระเหยบางเบาที่ลอยวนอยู่ในอากาศเรียกร้องให้ขยับกายเข้าหา ซอกจินเดินมาคุกเข่าลงตรงกลางหว่างขาของคนอายุน้อยกว่า เอื้อมมือสั่นเทาไปปลดเข็มขัดหนังราคาแพงออก ตามด้วยกระดุมกางเกงและซิบสีเงินที่ถูกปลดเปลื้องเป็นลำดับถัดไป เขาร่นชั้นในสีเข้มลง กอบกุมแกนกลางลำตัวที่ยังขยายไม่เต็มที่ไว้ในอุ้งมือร้อน รูดรั้งมันเบาๆด้วยความกล้าๆกลัวๆ จนอีกคนต้องออกคำสั่งเสียงเข้ม


“ให้ใช้ปาก ไม่ได้ให้ใช้มือ” ดวงตากลมโตตวัดมองอย่างไม่พอใจกับคำเร่งรัดนั้น ยิ่งเห็นว่าเขาเสียเปรียบคนใจร้ายก็ยิ่งกลั่นแกล้ง ชั่วครู่หนึ่งที่ซอกจินมีความคิดว่าอยากเลิกทำ แต่เมื่อเห็นร่างสูงนำคริสตัลมาเสพให้ดูต่อหน้าอีกครั้ง เขาก็กลั้นใจจรดริมฝีปากลงไปบนแท่งเนื้อที่เริ่มจะแข็งขืนสู้มืออย่างเสียไม่ได้ อาการปวดหัวที่กำเริบขึ้นมาอีกรอบบีบบังคับให้ต้องลงมือทำโดยไม่มีทางเลือก


 ปากอวบอิ่มกดจูบเบาๆที่ส่วนปลาย ไล่เรื่อยไปยังโคนและวกกลับมาลงลิ้นหนักๆที่รอยหยักตรงกลาง เรียวลิ้นอุ่นร้อนลากสัมผัสชื้นแฉะไปตามความยาว ทำต่อเนื่องอยู่สองสามครั้งแล้วก็เปลี่ยนเป็นครอบครองความรุ่มร้อนทั้งหมดเข้าไปในโพรงปาก เขาขยับศีรษะขึ้นลงพร้อมกับดูดดุนท่อนเอ็นขนาดใหญ่จนเกิดเสียงดังไปทั่วห้องกว้าง ใบหน้าหวานเห่อร้อนแดงก่ำด้วยความอายปนกับความรู้สึกผิดต่อเพื่อนสนิท ต่างจากคนถูกปรนเปรอที่ครางเบาๆในลำคออย่างพึงพอใจและคว้าแก้วไวน์แดงที่วางอยู่บนโต๊ะใกล้ๆมาดื่มอย่างสบายอารมณ์


“..อื้อ..” ซอกจินเผลอร้องออกมาเมื่อส่วนแข็งขืนขยายตัวเต็มที่จนพองคับปากไปหมด เขาโลมเลียมันลำบากขึ้นจนต้องใช้มือเข้าช่วยชักรูดส่วนโคนถี่ๆขณะที่ริมฝีปากก็ยังครอบอมส่วนหัวไว้ด้วยจังหวะหนักหน่วงจนเริ่มมีน้ำสีขุ่นปริ่มออกมาตรงปลายยอด


“...อืม..พอก่อน..” จองกุกใช้มือข้างที่ว่างจากการจับแก้วทรงสูงเชยปลายคางมนขึ้นมา น้ำใสๆที่เชื่อมโยงเป็นสายระหว่างแกนกายของเขากับปากอิ่มของคนที่นั่งคุกเข่าอยู่กลางหว่างขาช่างเป็นภาพที่อีโรติกอย่างบอกไม่ถูก แม้เสื้อผ้าจะยังไม่ถูกลิดรอนออกไปจากกายบางสักชิ้น แต่มันก็กระตุ้นอารมณ์ดิบในส่วนลึกได้ไม่น้อยทีเดียว


ซอกจินทำหน้างุนงงที่คนเอาแต่ใจยอมให้หยุดการกระทำง่ายๆ เขาเกือบจะคิดว่าอีกฝ่ายใจดีกว่าที่คาดไว้ แต่ไม่นานความคิดนั้นก็ต้องพังครืนลงไปเพราะประโยคคำสั่งเห็นแก่ได้เอื้อนเอ่ยเป็นลำดับต่อมา


 “ช่วยตัวเองซิ”


“..อะไรนะ?..”


“อย่าลีลา ผมรู้ว่าพี่เก่งเรื่องแบบนี้”


เป็นอีกครั้งที่ซอกจินกลืนไม่เข้าคายไม่ออกกับคำประกาศิตแสนร้ายกาจ แม้ภายในใจส่วนลึกจะเอ่ยคัดค้าน แต่ความกระดากอายเหล่านั้นก็ถูกแรงปรารถนาบดบังกดทับจนเลือนรางแทบมองไม่เห็น นาทีนี้เขาไม่รู้ว่าความถูกต้องหน้าตาเป็นแบบไหน รู้แค่ว่าต้องทำให้คนตรงหน้าพอใจ เขาจึงจะได้ในสิ่งที่ต้องการ


ร่างผอมบางขยับไปนั่งบนพรมขนสัตว์ผืนใหญ่ด้านหน้าโซฟาตัวยาว สองมือค่อยๆรั้งกางเกงยีนส์ออกไปจากเรียวขาสีน้ำนมไร้รอยตำหนิ ใช้เวลาเพียงชั่วอึดใจร่างกายท่อนล่างก็เปลือยเปล่า เขาชันขาทั้งสองข้างขึ้น ลูบไล้ฝ่ามือและปลายนิ้วไปตามแผ่นอก หน้าท้อง และเอื้อมลงมากอบกุมส่วนไวต่อสัมผัสเอาไว้


“อ้าขากว้างๆ” น่าแปลกที่ซอกจินดันมีอารมณ์ง่ายๆกับคำพูดหยาบโลนและสายตาร้อนแรงคู่นั้น เรียวขาขยับแยกออกจากกันตามคำสั่ง เผยให้เห็นส่วนสัดแสนน่ามองตั้งแต่แกนกลางลำตัวสีชมพูสวยไปจนถึงช่องทางอ่อนนุ่ม มือข้างหนึ่งเริ่มเคลื่อนไหวขึ้นลงช้าๆ ครั้งแรกกับการปรนเปรอตัวเองให้คนอื่นดูมันชวนให้รู้สึกขัดเขินไม่น้อย แต่เขาก็ไม่ได้ไร้เดียงสาจนไม่กล้าที่จะทำ


“...อา...” ครางออกมาเบาๆในตอนที่ส่งก้านนิ้วยาวชำแรกเข้าไปในช่องทางด้านหลัง เมื่อเริ่มคุ้นชินก็แทรกนิ้วที่สองเพิ่มเข้ามา ซอกจินเงยช้อนมองเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่บนโซฟา แต่เพียงครู่เดียวก็ต้องเสใบหน้าเห่อร้อนหลบสายตาคมกริบไปทางอื่น ไม่รู้ว่าเด็กอายุสิบเก้าอย่าง จอน จองกุก เจนจัดช่ำชองกับเรื่องแบบนี้ขนาดไหน ถึงยังคงนั่งจิบไวน์อย่างสบายอกสบายใจราวกับการกระทำเข้าข่ายวิตถารนี้เป็นเรื่องปกติ ต่างจากเขาที่เขินอายจนร่างกายร้อนรุ่มไปหมด


  เครื่องดื่มสัญชาติฝรั่งเศสสีแดงสดอมม่วงพร่องไปเกือบครึ่งแก้ว ปฏิเสธไม่ได้ว่าไวน์ชั้นเลิศกับเรือนร่างบอบบางบนพื้นพรมขนสัตว์ช่างเข้ากันอย่างน่าประหลาด เพียงแค่จับจ้องด้วยสายตาก็พาให้ความคบเครียดแน่นตึงช่วงกลางลำตัวปวดหนึบ เสียงร้องหวานหูในตอนที่มือเรียวคู่นั้นชักนำตัวเองไปถึงปลายทางแห่งความปรารถนาเป็นเสมือนตัวกระตุ้นให้เลือดในกายพลุ่งพล่าน เมื่อของเล่นชิ้นที่สิบสี่ทำผลงานได้น่าพอใจ เขาก็ลุกไปหยิบรางวัลมามอบให้ตามสัญญา


ซอกจินหอบหายใจอย่างเหนื่อยล้าหลังจากปลดปล่อยไปหนึ่งรอบ ดวงตากลมโตมองตามแผ่นหลังกว้างที่เดินไปหยิบอะไรบางอย่างก่อนจะวกกลับมาหา เด็กหนุ่มตัวสูงย่อตัวลงนั่งใกล้ๆ ดึงแขนข้างซ้ายเขาไปแล้วใช้นิ้วโป้งกดคลึงตรงข้อพับ วินาทีนั้นเขาเห็นกระบอกฉีดยาบรรจุสารสีใสที่อีกคนถือไว้ในมือขวา ปลายเข็มสีเงินวาววับสะท้อนกับแสงไฟ ...ไม่รอให้เอ่ยถามอะไร เด็กหนุ่มก็จัดการจรดวัตถุแหลมคมลงกับผิวเนื้อเนียน แทงทะลุส่วนที่เป็นหลอดเลือดดำแล้วฉีดของเหลวไร้สีเข้าไปจนหมดทุกหยาดหยด


“รางวัลของพี่ เอาไปหนึ่งเข็มก่อนนะครับ”


“..อ๊า!..” เผลอกรีดร้องเสียงสูงเพราะความเจ็บแปลบที่เกิดขึ้นบริเวณข้อพับโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ซอกจินหลับตาเชิดใบหน้าขึ้นเมื่อยาเริ่มออกฤทธิ์ ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีเมทแอมเฟตามีนก็แทรกซึมเข้าสู่ทุกอณูในร่างกาย อาการปวดศีรษะที่มีก่อนหน้านี้ค่อยๆทุเลาลงจนหายเป็นปลิดทิ้ง ความทรมานถูกเยียวยารักษาและแทนที่ด้วยความรู้สึกปลอดโปร่งซาบซ่าน สมองของเขาว่างเปล่าขาวโพลน ตัวก็เบาหวิวอย่างควบคุมไม่ได้ ถูกพาเข้ามาในห้องนอนตอนไหนก็ไม่รู้ แม้แต่ตอนที่ร่างสูงผลักลงไปนอนราบกับลานเตียงกว้างเขาก็ยังไม่ขัดขืน


เด็กหนุ่มอายุอ่อนกว่าแต่มากด้วยประสบการณ์ตามมาโถมตัวขึ้นคร่อม ใบหน้าคมคายจ้องมองมาด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก ซอกจินจำอะไรไม่ได้มากนัก มีเพียงรอยยิ้มมุมปากคล้ายกับจะเย้ยหยันที่ยังคงติดตา และเสียงทุ้มแหบพร่าที่กระซิบลงข้างหู


“ยินดีต้อนรับเข้าสู่สวรรค์ชั้นสิบสี่อย่างเป็นทางการ”


ริมฝีปากหยักประกบลงมาอย่างจาบจ้วงเอาแต่ใจ ขบกัดจนเรียวปากอิ่มแทบปริแตก ก่อนจะไล่เรื่อยไปตามผิวกายขาวผ่องตั้งแต่ต้นคอลงมาจนถึงเนินอก เสื้อผ้าอาภรณ์ถูกปลดเปลื้องลงไปกองบนพื้นข้างเตียงอย่างไม่ใส่ใจ ร่างเปลือยเปล่าของคนสองคนโรมรันกอดรัดมอบสัมผัสร้อนรุ่มให้แก่กัน ฤทธิ์สารเสพติดที่รับเข้าไปก่อนหน้านี้เป็นเหมือนเชื้อเพลิงชั้นดีที่กระตุ้นให้ไฟสวาทโหมกระหน่ำ


“..อ๊ะ.. อื๊ออ..” เสียงหวานร้องครางอย่างไม่อาจกลั้น ลิ้นร้อนหยอกเย้ากับยอดอก มือหนาลูบไล้บีบเค้นไปทั่วร่าง ทุกอย่างที่ประกอบกันเป็นผู้ชายชื่อ จอน จองกุก กำลังแผดเผา คิม ซอกจิน ให้หลอมละลาย ยิ่งเมื่ออีกฝ่ายสอดใส่ความแข็งขืนดุดันเข้ามาในช่องทางรัก ดวงตากลมโตก็พร่าเลือนไปหมดเพราะความวาบหวามรัญจวนใจที่ตีตื้นขึ้นมาจนเหมือนจะสำลักความสุขสมนี้เสียให้ได้


จังหวะการกระแทกกระทั้นหนักหน่วงรุนแรงแทบลืมหายใจ สารเสพติดแสนอันตรายกระตุ้นให้ร่างกายไวต่อสัมผัสไปเสียทุกส่วน แม้จะมีพื้นผิวเรียบลื่นของเครื่องป้องกันสีใสมาขวางกั้นไว้ แต่ซอกจินก็รู้สึกถึงตัวตนขนาดใหญ่ของคนที่กำลังร่วมรักอยู่ได้อย่างชัดเจน ความกระสันเสียวเอ่อล้นจนต้องหลั่งน้ำตา คล้ายกับจะมองเห็นแสงสว่างจากปลายทางแห่งแรงปรารถนาอยู่รำไร ...ซอกจินไม่รู้ว่าสวรรค์มีทั้งหมดกี่ชั้น ..ห้า ..หรือ เจ็ด ..หรือ เก้า ทว่าวินาทีนี้เขาเหมือนจะล่องลอยไปได้สูงกว่านั้นมาก ...บางที เขาอาจจะกำลังอยู่บนสวรรค์ชั้นที่สิบสี่อย่างที่อีกคนว่าเอาไว้จริงๆก็ได้


“...จองกุก..อ๊ะ..จองกุก..” เรียวปากอิ่มพร่ำเอ่ยชื่อคนด้านบนซ้ำๆ เรือนร่างบอบบางโยกคลอนไปตามแรงที่สะโพกสอบกดสวนเข้ามา เล็บคนจิกครูดแผ่นหลังกว้างเป็นทางยาวเพื่อระบายความเสียวซ่าน ร่างหนั่นหนาโถมกายเข้าหาความอุ่นร้อนที่โอบรัดตัวตนเอาไว้จนแทบคลั่งอยู่สักพัก ไม่นานสายธารอารมณ์สีขุ่นของคนสองคนก็ถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมๆกัน






continue reading >> 14th Heaven [3]





วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

[OS] : Reagenglas - KookJin (cut)

                  


                 “ไม่เอานะจองกุก” จับมือคนอายุน้อยกว่าเอาไว้ไม่ให้ปลดเปลื้องอาภรณ์ตัวบางชิ้นสุดท้ายออกไป พร้อมทั้งส่งสายตาเว้าวอนมาให้อย่างน่าสงสาร แต่ถึงอย่างนั้นคนมองกลับยกยิ้มด้วยคิดว่ามันช่างน่ารักน่าแกล้งเสียมากกว่า เสียงทุ้มหัวเราะเบาๆในลำคออีกครั้ง เขาแกล้งรั้งชั้นในสีขาวลงมาทีละนิดๆจนส่วนอ่อนไหวสีสวยที่เริ่มจะขยายขนาดขึ้นเพราะแรงอารมณ์ปรากฏสู่สายตา


                “ตรงนี้มันไม่เห็นปฏิเสธเหมือนที่ปากว่าเลยนี่?” แตะนิ้วลงไปบนส่วนปลายเบาๆอย่างหยอกเย้าจนอีกฝ่ายที่ไม่ทันได้ตั้งตัวกระตุกเกร็งตอบสนองขึ้นมาโดยอัตโนมัติ ใบหน้าหวานแดงซ่าน ทั้งโกรธทั้งเขินอายแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากดันไหล่กว้างเอาไว้ไม่ให้ขยับตัวลงไปใกล้แกนกลางลำตัวของตน


                “..อย่า.. ฉันขอร้อง..” พร่ำบอกคำอ้อนวอนอย่างน่าสงสารอีกหน แต่มีหรือที่คนเอาแต่ใจด้านบนจะใส่ใจทำตาม นาทีนี้ จอน จองกุก ไม่จำเป็นต้องรับฟังคำห้ามปรามใดๆทั้งสิ้น


                “ไม่ต้องขอหรอก ..เดี๋ยวได้ร้องแน่ๆ” พูดจบแล้วก็ก้มลงไปครอบครองส่วนอ่อนไหวนั้นด้วยริมฝีปาก เรียวลิ้นลากสัมผัสชื้นแฉะไปทั่วก่อนที่จะดูดเม้มแรงๆแล้วกลืนกินแท่งเนื้อสีชมพูสดเหมือนขนมหวานเข้าไปในโพรงปากอุ่นร้อน มือเรียวเอื้อมมาสอดเข้าไปใต้ไรผมสีเข้มของเด็กหนุ่ม ออกแรงขยุ้มเพื่อระบายความเสียวซ่านและร้องครางออกมาอย่างห้ามไม่ได้ อยากจะปฏิเสธแทบตายแต่ร่างกายแสนซื่อตรงต่อความรู้สึกก็กลับตอบสนองร่างสูงไปอย่างไม่อาจต้านทาน


                “อื้อ.. จองกุก ..พอแล้ว อ๊า...” โพรงปากอุ่นชื้นดูดดุนเนื้อนวลด้วยความย่ามใจพร้อมทั้งสอดนิ้วเข้าไปหมุนวนอยู่ในช่องทางอ่อนนุ่ม ค่อยๆเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆจนครบทั้งสามนิ้ว เขาดึงมันเข้าออกถี่ๆอยู่สักพักไม่นานอาจารย์คนสวยก็เกร็งตัวปล่อยความต้องการสีขาวออกมาในปากของเขาจนหมดสิ้น  


                จองกุกละออกมาแล้วยืดตัวแทรกตรงกลางหว่างขาสีน้ำนมขึ้นไปประกบปากแลกสัมผัสหวานติดลิ้นกับร่างบอบบางอยู่เนิ่นนาน ส่งน้ำรักรสฝาดให้อีกคนได้ลิ้มลอง จากนั้นเขาก็หันกลับมาจัดการกับตัวเองต่อ มือหนาปลดเข็มขัดนิสิตและรูดซิบกางเกงยีนส์ผิดระเบียบสีดำสนิทลง ความรุ่มร้อนขนาดใหญ่ภายใต้บ็อกเซอร์สีเข้มนั้นทำให้ซอกจินขยับตัวถอยออกไปพร้อมทั้งส่ายหน้ารัว


                “...อย่า..” แขนแกร่งดึงข้อเท้าเรียวให้ร่างโปร่งขยับเข้ามาใกล้ชิด เขาดึงสะโพกมนให้ห่างออกมาจากปลายโต๊ะอีกนิดเพื่อที่ตัวเองซึ่งยืนอยู่จะได้แทรกกายเข้าไปง่ายขึ้น เด็กหนุ่มร่นปราการชิ้นสุดท้ายของตัวเองลงพลางขยับรูดแกนกลางลำตัวเป็นการเตรียมพร้อมก่อนสอดใส่อีกสองสามครั้ง ทว่ายังไม่ทันได้รุกล้ำเข้าไปในร่างกายสวย เสียงเคาะประตูจากหน้าห้องแลปก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะเสียก่อน



                ก๊อกๆๆ



                “อาจารย์ซอกจินยังอยู่หรือเปล่าครับ?” ซอกจินสะดุ้งเฮือกอย่างตกใจทันทีที่ได้ยินเสียงบุคคลที่สาม เขาได้แต่มองไปที่ประตูอย่างเลิกลั่ก เสียงนั้นเป็นเสียงที่เขาจำได้ดีว่าเป็นของนิสิตชายคนเมื่อวานที่มาช่วยเก็บของ ..จอน วอนอู


                “แหม.. มีคนมาหาถึงที่เลยนะ” จองกุกเหยียดยิ้มร้ายขณะกระซิบข้างใบหูเล็ก เขาตัดสินใจเงียบไปพักหนึ่งเพื่อรอฟังว่าคนข้างนอกจะพูดอะไรต่อ


                “อาจารย์? กลับแล้วเหรอครับ” เสียงเรียกยังคงดังอยู่ไม่ขาด ไม่แปลกที่คนภายนอกจะสงสัยว่าข้างในมีคนอยู่หรือไม่เนื่องจากไฟในห้องยังคงเปิดอยู่หากแต่ประตูกลับถูกล็อค


                “บอกเขาไปสิครับ ว่าอาจารย์อยู่ แต่ไม่ว่าง” ก้มลงกระซิบชิดริมฝีปากอิ่มพร้อมกับแนบจูบร้อนๆอีกคราอย่างยั่วเย้า ครั้นพอเห็นคนใต้ร่างยังเอาแต่เงียบ เขาจึงแทรกส่วนปลายแกนกายเข้าไปช้าๆเป็นเชิงเร่งเร้า


                “..อาจารย์..เก็บของอยู่น่ะ อื๊อ!..” เปิดปากพูดอย่างยากลำบากเพราะร่างสูงเริ่มขยับกายเบาๆราวกับจะกลั่นแกล้ง เหมือนสนุกเสียเต็มประดาที่ได้เห็นเขาทรมานกับการพยายามกลั้นไม่ให้เสียงน่าอายเล็ดลอดออกไป บางครั้งอีกฝ่ายก็แกล้งฝังกายเขามาแรงๆจนต้องยกมือฟาดไปที่ต้นแขนกำยำนั้นไม่เบานัก ด้วยกลัวว่าคนข้างนอกจะรู้ว่าพวกเขากำลังทำอะไรกันอยู่


                “งั้นให้ผมเข้าไปช่วยนะครับ จะได้เสร็จเร็วขึ้น”


                “..มะ..ไม่ต้อง!..” เผลอขึ้นเสียงอย่างตกใจเมื่อได้ยินแบบนั้น ถ้าเป็นวันอื่นได้นิสิตสักคนมาช่วยงานก็คงจะดี แต่ตอนนี้เขาของแค่ให้ใครคนนั้นช่วยออกไปจากตรงนี้เสียทีคงจะดีที่สุด “..คือ..อาจารย์ทำเองได้ ..มันใกล้จะเสร็จแล้วล่ะ”


                “แน่ใจนะครับ?”  


                “..อะ อืม.. เธอกลับไปเถอะ” ถึงจะสงสัยในน้ำเสียงแปลกๆของคนอายุมากกว่าตลอดเวลาที่พูดคุยกัน แต่วอนอูก็ยังคงพยักหน้ารับในการปฏิเสธความช่วยเหลือนั้นและไม่นานยอมก็เดินจากไปโดยดี เมื่อเห็นว่าเงาที่หน้าประตูห้องเคลื่อนตัวไปแล้วซอกจินก็โล่งใจไปเปราะหนึ่ง แต่ความกังวลที่มีก็ยังไม่หายไปทั้งหมด เพราะเขารู้ดีว่ายังต้องรับมือกับเด็กหนุ่มที่ทาบทับอยู่บนตัวคนนี้ต่อ ยิ่งวอนอูมาหาถึงที่แบบนี้แล้ว จองกุกคงจะยิ่งโกรธเขามากแน่ๆ


                “ร่ำลากันเสร็จสักที คราวนี้ก็มาต่อเรื่องของเราได้แล้วครับอาจารย์” ว่ายิ้มๆแต่ซอกจินก็สังเกตได้ว่าดวงตาคมคู่นั้นไม่ได้ยิ้มตามไปด้วย สะโพกสอบที่เคยกดสวนเข้ามาช้าๆแต่ว่าหนักหน่วงเหมือนเป็นการหยอกเย้าเปลี่ยนมาเป็นขยับไหวทั้งเร็วและแรงอย่างไม่ปรานี ร่างสูงไม่ออมแรงให้เขาอีกต่อไป


                “...อื๊ออ จองกุก.. เบาๆ อ๊ะ เบาหน่อย...” มือเรียวดันหน้าท้องที่ขึ้นลอนกล้ามสวยงามออกห่างหวังให้อีกคนลดแรงกระแทกกระทั้นลงบ้าง หากแต่คนด้านบนกลับเมินเฉย นอกจากจะไม่ใส่ใจคำร้องขอนั้นแล้วเด็กหนุ่มยังยกเรียวขาขาวข้างหนึ่งขึ้นพาดบ่าเพื่อให้ตัวเองได้สอดใส่ความแข็งขืนขนาดใหญ่เข้าไปได้ลึกยิ่งขึ้นอีกด้วย


                ซอกจินร้องครางออกมาอย่างสุดจะกลั้นเมื่อร่างสูงกดฝังกายเข้าไปที่จุดกระสันภายในซ้ำๆ ตัวของเขาโยกคลอนไปทั้งร่างตามจังหวะที่อีกคนเป็นฝ่ายชักนำ และในตอนนั้นเองมือเรียวก็ปัดไปโดนหลอดแก้วสีใสที่ยังเก็บไม่เรียบร้อยหลอดหนึ่งบนโต๊ะจนมันร่วงหล่นลงไปกระแทกกับพื้น



                เพล้งงง!



                หลอดทดลองแตกละเอียดกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยจนไม่สามารถประสานให้มันกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ อาจารย์หน้าหวานหลับตากัดริมฝีปากแน่นด้วยความหน่ายระอาและนึกด่าว่าตัวเองอยู่ในใจ ..สุดท้ายเดือนนี้เขาก็ทำมันแตกไปอีกหนึ่งหลอด...


                “ไม่ต้องห่วงหรอก ถ้าอาจารย์โดนเรียกไปพบอีกเดี๋ยวผมจะคุยกับคุณลุงให้เอง” เด็กหนุ่มที่กำลังเสพสมความสุขจากร่างบอบบางว่าอย่างไม่ยี่หระ ..ก็เขาเป็นถึงหลานชายของคณะบดีนี่นา เรื่องแค่นี้จะไปยากเย็นอะไรกัน กะอีแค่หลอดแก้วราคาอันละไม่กี่พันวอนนั่น จะทำแตกอีกสักกี่สิบกี่สักร้อยอันก็ไม่เห็นเป็นอะไร เงินที่ครอบครัวเขาบริจาคเข้าคณะไปแต่ละปีสั่งซื้อของพวกนี้มาทดแทนได้อยู่แล้ว  


                แต่ทว่านั่นไม่ใช่กับคิม ซอกจิน.. ลำพังเขาเองก็เป็นแค่อาจารย์ที่เพิ่งมีประสบการณ์การสอนไม่มาก ไม่มีสิทธิ์มีเสียงอะไรนัก แค่ทำของส่วนรวมเสียหายก็รู้สึกผิดมากมายอยู่แล้ว นี่เขายังปล่อยให้เรื่องน่าละอายแบบนี้เกิดขึ้นในสถานที่ที่ไม่สมควรซ้ำๆอีก ..เขาไม่รู้แล้วว่าศักดิ์ศรีของตัวเองยังจะคงเหลืออยู่ไหม ไม่รู้ว่าเอาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้วจริงๆ


                “..อา... “ เสียงทุ้มครางออกมาด้วยความพึงพอใจที่ร่างกายเย้ายวนกอดรัดเขาไว้แน่นเหมือนทุกทีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันสักกี่ครั้ง ซอกจินก็ยังทำให้เขาสุขสมจนแทบคลั่งอยู่เสมอ จองกุกออกแรงกดสวนสะโพกสอบให้เร็วยิ่งขึ้น กระแทกกระทั้นกายหนักหน่วงจนในที่สุดความปรารถนาทั้งหมดก็แตกซ่านภายในช่องทางอุ่นร้อนสีชมพูหวาน


                “...ไม่เอาแล้วนะจองกุก ..ขอร้อง..” น้ำตาใสๆเอ่อคลอรอบดวงตาสวย มือเรียวยกขึ้นมาค้ำยันแผงอกกว้างไว้อย่างขอความเห็นใจ แต่กระนั้นคนใจร้ายก็ยังไม่ยอมหยุด ร่างสูงพลิกตัวเขาให้หันหลังหมอบราบลงไปกับโต๊ะตัวยาว ความคับเครียดที่ยังไม่ลดขนาดลงไปสอดแทรกเขามาในกายอีกครั้ง แรงขยับไหวยังคงรวดเร็วและหนักหน่วงเช่นคราวก่อนหน้า มือหนาเอื้อมมาจับปลายคางมนให้หันกลับไปรับจูบดูดดื่มที่กดแนบลงมาด้วยแรงปรารถนาปะปนกับแรงโทสะ



continue reading >> Reagenglas