วันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2559

[OS] : Fairy Tales The Series :: Cinderella (cut)

NamJin Part



สิ้นประโยคนั้นปากหนาก็ประกบลงมาอย่างจาบจ้วงเอาแต่ใจ ซอกจินพยายามเบือนหน้าหนีสัมผัสหยาบโลนที่ได้รับทว่าก็ไม่สามารถสู้แรงคนตัวใหญ่กว่าได้ ฟันคมขบกัดริมฝีปากล่างของเขาจนบวมช้ำ ลิ้นร้อนแทรกสอดเข้ามากวาดชิมรสชาติหอมหวานภายในโพรงปากอุ่นร้อนอย่างถือวิสาสะ ความกักขฬะรุนแรงเหมือนช่วงเวลาแสนทรมานตอนที่ถูกพ่อเลี้ยงลงโทษทำให้ซอกจินนึกกลัวจนต้องหลั่งน้ำตา ...ไม่ใช่..เขาไม่ได้ต้องการให้มันเป็นแบบนี้


“..อย่า..” เสียงห้ามปรามน่าเห็นใจถูกกลืนหายลงไปในลำคอด้วยรสจูบหนักหน่วงที่บดเบียดลงมาครั้งแล้วครั้งเล่า มือเรียวกำเชิ้ตสีเข้มของคนด้านบนไว้แน่นก่อนจะเปลี่ยนเป็นออกแรงทุบแผ่นหลังกำยำแรงๆเมื่อจุมพิตครั้งล่าสุดกินเวลายาวนานแทบขาดอากาศหายใจ


“อย่าทำหน้าแบบนั้นสิครับ เกิดผมเผลอรุนแรงกับคุณขึ้นมาจะว่ายังไง” ดวงตาคมจ้องมองคนที่นอนสิ้นฤทธิ์อยู่ใต้ร่างด้วยความหิวกระหาย ยิ่งเหยื่อตัวน้อยแสนบอบบางแสดงท่าทางไม่ประสีประสาต่อเรื่องอย่างว่ามากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งอยากจะกลั่นแกล้งรังแกให้อีกฝ่ายร้องไห้หนักขึ้นเท่านั้น


“..ไม่..ฮึก..ขอร้อง” คำคัดค้านและเสียงสะอื้นผะแผ่วอย่างน่าสงสารไม่ถูกให้ความสำคัญอีกต่อไป ร่างสูงใหญ่โน้มหน้าลงไปฝากฝังร่องรอยความเป็นเจ้าของสีแดงสดไว้บนผิวเนื้อเนียนตั้งแต่ต้นคอขาวผ่องไล่เรื่อยลงมายังแผ่นอกบาง สองมือปลดกระดุมเสื้อออกทีละเม็ด เปิดทางให้ริมฝีปากร้อนรุกรานเรือนร่างเย้ายวนได้ตามอำเภอใจ กายบางกระตุกเกร็งพลางผวากอดเขาไว้แน่นทันทีที่เรียวลิ้นชื้นแฉะแตะลงบนเม็ดทับทิมสีสวยบนอก คำทักท้วงห้ามปรามที่มีแปรเปลี่ยนเป็นเสียงร้องครวญครางอย่างไม่อาจกลั้นเมื่อคนใจร้ายแกล้งดูดดึงขบเม้มส่วนไวต่อสัมผัสจนขึ้นสีแดงก่ำน่ามอง


เสื้อผ้าอาภรณ์ราคาแพงที่เคยสวมใส่ถูกปลดเปลื้องออกไปกองระเกะระกะอยู่บนพื้นอย่างไม่ใส่ใจ สิ่งเดียวที่ คิม นัมจุน ไม่คิดจะเพิกเฉยคือประติมากรรมชิ้นเอกของพระเจ้าที่นอนทอดกายอยู่ตรงหน้า มือหนาจับเรียวขาเปล่าเปลือยไร้สิ่งปกปิดให้แยกออกกว้าง ไล่สายตาร้อนแรงพิจารณาทุกส่วนสัดก่อนจะก้มลงไปครอบครองส่วนอ่อนไหวกลางลำตัวของคนด้านล่างด้วยโพรงปากอุ่นชื้น


ปากหยักทำหน้าที่ของมันอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ในขณะที่ก้านนิ้วยาวก็ค่อยๆแทรกสอดเข้าไปภายในช่องทางคับแน่น แม้จะอยากกระแทกกระทั้นโถมกายใส่เรือนร่างงดงามให้สาแก่ใจเสียเดี๋ยวนั้นแต่ก็ต้องฝืนหักห้ามความคิดเอาไว้ ค่ำคืนนี้ยังมีเวลาให้เขารังแกเจ้าของผิวเนื้อเนียนละเอียดอีกยาวไกล ไม่มีความจำเป็นอะไรเลยที่จะต้องรีบร้อน


“..อ๊ะ!..” เสียงครางหวานหูดังขึ้นพร้อมกับแรงโอบรัดเป็นจังหวะถี่รัวเมื่อปลายนิ้วเรียวแตะเข้าที่จุดศูนย์รวมของความรู้สึก ความกระสันเสียวแล่นริ้วไปทั่วสรรพางค์จนร่างกายแสนสัตย์ซื่อบิดเร่า เล้าโลมอยู่สักพักจนอีกฝ่ายตายใจกับความอ่อนโยนที่มอบให้ ไม่นานนัมจุนก็ถอดถอนนิ้วเรียวยาวออกแล้วแทรกสอดสิ่งอื่นที่มีขนาดใหญ่กว่านั้นเข้าไปแทนที่


ซอกจินกรีดร้องสุดเสียงเมื่อคนใจร้ายดันความแข็งขืนซึ่งกำลังขยายตัวเต็มอัตราเข้ามาในคราเดียวจนสุดความยาว การปลอบประโลมและท่าทีโอนอ่อนเช่นก่อนหน้านี้ไม่มีหลงเหลืออีกต่อไป ทันทีที่แทรกตัวตนขนาดใหญ่เข้ามาได้ ร่างหนั่นหนาด้านบนก็ขยับสะโพกหนักหน่วงรุนแรงอย่างเอาแต่ใจ เมินเฉยต่อทุกเสียงสะอื้นไห้จากคนที่เป็นฝ่ายเสียเปรียบ


เจ้าของใบหน้าหวานปล่อยให้หยาดน้ำอุ่นๆไหลอาบสองข้างแก้มหยดแล้วหยดเล่า ความเชื่อใจที่เคยมีให้อีกฝ่ายพังทลายลงไม่เหลือชิ้นดี ไม่ต่างอะไรกับแก้วใบใสแสนเปราะบางที่ถูกขว้างลงกระทบกับพื้นกระเบื้องจนแตกละเอียด ไร้หนทางทางจะประสานกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ เขาอุตส่าห์คิดว่าร่างสูงจะเข้ามาผูกมิตรด้วยความจริงใจ แต่สุดท้ายทุกอย่างที่อีกคนทำก็เป็นเพียงแค่ละครฉากหนึ่งที่ใช้หลอกลวงคนโง่งมอย่างเขาให้ติดกับเท่านั้นเอง


continue reading >> Cinderella 






TaeJinKook Part





“..แทฮยอง พี่ขอโทษ..” พร่ำเอ่ยคำขอโทษอย่างน่าสงสารเมื่อร่างทั้งร่างถูกเหวี่ยงลงไปบนฟูกเก่าๆที่ใช้นอนมาตลอดหลายปี น้ำตาใสๆเอ่อรื้นขึ้นมาอีกครั้งเมื่อคนอายุน้อยกว่าตามมาโถมตัวขึ้นคร่อม มือใหญ่ฉีกกระชากเชิ้ตตัวสวยออกโดยไร้ซึ่งความเห็นใจ ยิ่งสังเกตเห็นร่องรอยแดงช้ำประปรายอยู่ตามผิวกายขาวผ่องตั้งแต่ต้นคอลงไปจนถึงหน้าท้องแบนราบ เขาก็ยิ่งรู้สึกอยากจะลงทัณฑ์นักโทษประหารคนนี้ให้สาหัสมากขึ้นไปอีก


“ผมไม่สงสัยเลยว่าทำไมพี่กลับบ้านเอาป่านนี้ หมอนั่นคงสนองให้จนถึงใจเลยสินะ” ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงมากระซิบเสียงพร่าชิดเรียวปากอิ่มสวย ฟันคมแกล้งขบกัดริมฝีปากล่างแรงๆจนได้กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งก่อนจะเอื้อนเอ่ยประโยคต่อไปด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลน่าฟัง ต่างจากดวงตาคมกริบที่ไม่มีแววแห่งความปรานีหลงเหลืออยู่เลยแม้แต่น้อย


“..เตรียมใจไว้ด้วยล่ะ ..เพราะผมไม่ใจดีเหมือนมันหรอกนะคนสวย..”


ผิวเนื้อขาวผ่องถูกปากหยักกดจูบดูดเม้มจนแทบไม่มีสักตารางนิ้วที่ไม่ถูกตีตราเป็นเจ้าของ รอยรักแดงช้ำเปรียบ เสมือนสีสันงดงามที่แต่งแต้มลงบนผืนผ้าใบมีชีวิต มือหนาปลดเปลื้องรูดรั้งกางเกงแสลคสีเข้มรวมทั้งชั้นในซึ่งเป็นปราการด่านสุดท้ายออกไปจากขาเรียวยาว เปิดเผยทุกสัดส่วนบนร่างกายเย้ายวนน่าข่มเหงรังแกให้ได้เห็น


“..อย่า..ไม่เอานะ แทฮยอง..” เสียงสะอื้นร้องขอไม่ได้ทำให้ซาตานในคราบมนุษย์รูปงามรู้สึกเห็นใจ ลิ้นร้อนแลบเลียริมฝีปากสีธรรมชาติอย่างกระเหี้ยนกระหาย คนอายุน้อยกว่าคว้ามือเรียวที่เอื้อมมาปกปิดส่วนน่าอายกลางลำตัวขึ้นมาจุมพิต เรียวลิ้นลากสัมผัสชื้นแฉะไปตามร่องนิ้วของคนด้านล่างช้าๆอย่างย่ามใจ


กางเกงผ้าฝ้ายสีดำสนิทถูกร่นลงไปกองตรงหน้าขา ก่อนที่ส่วนแข็งขืนขนาดใหญ่จะสอดใส่เข้ามาภายในช่องทางอ่อนนุ่มโดยไม่บอกกล่าว ซอกจินผวากอดเจ้าของผิวกายสีน้ำผึ้งน่าหลงใหลไว้แน่นเพราะน้องไม่แม้แต่จะเตรียมความพร้อมใดๆให้เลยด้วยซ้ำ น้ำสีขุ่นที่ยังคงคั่งค้างอยู่ตั้งแต่เมื่อคืนกลายเป็นสารหล่อลื่นที่ช่วยลดทอนความฝืดเคืองลงไปได้เป็นอย่างดี


แทฮยองเหยียดยิ้มด้วยความชิงชังระคนสมเพชเมื่อรับรู้ได้ถึงร่องรอยของใครอีกคนที่หลงเหลืออยู่ภายในร่างกายร้อนรุ่ม ความรู้สึกด้านลบที่มีให้พี่ชายต่างสายเลือดหลอมรวมกลายเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีที่เติมต่อเปลวไฟแห่งตัณหาอารมณ์ให้ลุกโชน แผดเผาหัวใจดวงน้อยของผู้ถูกกระทำให้แหลกสลายเป็นเถ้าธุลี



ก๊อก ก๊อก


เสียงเคาะประตูจากด้านนอกหยุดยั้งการขยับไหวของสะโพกสอบไปครู่หนึ่ง ครั้นพอหันมองกลับไปเด็กหนุ่มก็ต้องฉีกยิ้มกว้างอย่างมีเลศนัยเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนเปิดประตูไม้บานนั้นเข้ามา


“อ้าว ตื่นแล้วเหรอ มาเล่นด้วยกันสิ กำลังสนุกเลย”


“จองกุก..ช่วยพี่ด้วย อ๊ะ..” ซอกจินเอ่ยขอร้องด้วยน้ำเสียงสั่นเครือน่าสงสาร แต่ก็ยังไม่วายถูกซาตานใจร้ายแกล้งกระแทกกายลงมาหนักๆจนต้องเผลอครวญครางอย่างห้ามไม่ได้ เขาหวังให้คำร้องขอครั้งนี้ได้รับความเห็นใจ หากแต่สุดท้ายความหวังเพียงหนึ่งเดียวของเขาก็ดับสิ้นลงไปพร้อมกับคำพูดของน้องชายในประโยคถัดมา


“ได้สิ เดี๋ยวผมจะช่วยให้สนุกมากขึ้นกว่านี้เอง ”


เด็กหนุ่มตัวสูงปลดอาภรณ์ด้านล่างของตนออก มือหนาชักรูดส่วนไวต่อความรู้สึกสองสามครั้งก่อนจะจับมันแทรกสอดเข้าไปในโพรงปากนุ่ม บังคับให้ร่างบอบบางกลืนกินความคับเครียดแข็งขืนขนาดใหญ่เข้าไปอย่างเสียไม่ได้ สะโพกหนั่นหนาออกแรกขยับคุมจังหวะด้วยตัวเองอย่างเอาแต่ใจ ลิ้นเล็กที่พยายามหลบหนีสัมผัสหยาบโลนอย่างไม่ประสีประสานั้นแม้จะไม่ได้เจนจัดช่ำชองเหมือนคู่นอนคนอื่นๆที่เคยเจอมา หากแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันทำให้เขารู้สึกดีไม่น้อยเลยทีเดียว


แทฮยองจับเรียวขาสีน้ำนมข้างหนึ่งขึ้นพาดบ่า เสือกไสกายเป็นจังหวะหนักหน่วงถี่รัวอีกไม่กี่คราก็ปลดปล่อยความต้องการที่ปะปนด้วยความเกลียดชังเข้าไปในช่องทางรุ่มร้อน เด็กหนุ่มผิวเข้มขยับสะโพกช้าๆสองสามครั้งรีดรั้งแรงปรารถนาสีขุ่นออกมาจนหมด ก่อนที่เขาและน้องชายจะสับเปลี่ยนตำแหน่งกันอย่างรู้งาน


จองกุกจับพลิกเรือนร่างบอบบางให้อยู่ในท่าคลานเข่า ไม่รอให้อีกฝ่ายได้พักหายใจนานถึงสามนาทีดีเขาก็สอดใส่ตัวตนเข้าไปในเรือนกายงดงามอีกครั้ง ความคับเครียดแน่นตึงภายในช่องทางบวมช้ำโอบรัดแกนกลางลำตัวแนบแน่นจนต้องครางเบาๆในลำคอด้วยความพึงพอใจ มือหนาบีบเค้นสะโพกมนจนขึ้นรอยแดงเป็นจ้ำพร้อมกับกระแทกกายสวนผ่านความร้อนรุ่มนั้นอย่างหิวกระหาย


“อ้าปากหน่อย เร็วๆเข้า” แทฮยองเชยปลายคางเรียวบังคับให้ใบหน้าหวานแหงนเงยขึ้น ส่วนแข็งขืนที่ยังไม่อ่อนตัวลงไปกดแทรกเข้ามาในโพรงปากโดยไม่บอกกล่าว นิ้วเรียวยาวสอดเข้าไปขยำไรผมสีน้ำตาลสวย ออกแรงกดท้ายทอยของอีกคนให้ขยับเข้าออกเร็วบ้างช้าบ้างตามแต่ใจต้องการ  


แรงกระแทกกระทั้งจากทั้งด้านหน้าและด้านหลังทำเอาแขนเพรียวที่ค้ำยันอยู่บนฟูกนุ่มแทบทรงตัวต่อไปไม่ไหว เด็กหนุ่มทั้งสองยังคงย่ำยีร่างกายแสนบอบบางอย่างเอาแต่ใจ กินเวลานานร่วมชั่วโมงกว่าซาตานใจร้ายจะปลดเปลื้องพันธนาการให้เหยื่อผู้น่าสงสารเป็นอิสระ


จองกุกถอดถอนความแข็งขืนดุดันขนาดใหญ่ออกจากช่องทางอ่อนนุ่มด้านหลัง เป็นเวลาเดียวกับที่พี่ชายของเขาละสัมผัสออกจากริมฝีปากอวบอิ่มสีสดเช่นกัน สายตาคมกริบสองคู่ปรายมองคนที่นอนคุดคู้หอบหายใจอยู่บนเตียงเหล็กเก่าๆด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งสมเพชเวทนาและสะใจ แต่สุดท้ายสิ่งที่เด่นชัดที่สุดก็ไม่พ้นความชิงชังที่มีให้พี่ชายต่างสายเลือดคนนี้ตลอดมา


“พ่อผมเลี้ยงพี่ไว้ให้เฝ้าบ้าน ไม่ใช่ให้ออกไปร่านกับผู้ชายคนอื่น จำใส่สมองทึบๆของพี่ไว้ด้วย”



continue reading >> Cinderella 




วันอังคารที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2559

[OS] : Caffeine - NamJin (cut)

KookJin Part


                  ซอกจินช้อนสายตาขึ้นมองคนพูดอย่างไม่เชื่อหู ดวงตาคมที่สบกลับมาอย่างจริงจังบอกให้รู้ว่าเจ้าตัวไม่ได้ล้อเล่น ..เสียงห้ามปรามทั้งหมดกลืนหายลงไปในลำคอพร้อมกับรสจูบหนักหน่วงที่ทาบทับลงมารวดเร็วจนไม่ทันตั้งตัว


                   ริมฝีปากหยักบดเบียดเคล้าคลึงรุนแรงทว่าก็เร่าร้อนจนต้องเผลอเปิดรับลิ้นชื้นเข้าไปภายในอย่างเสียไม่ได้ มือหนากดท้ายทอยอีกฝ่ายให้เอียงรับสัมผัสในองศาที่ลุ่มลึกมากยิ่งขึ้น เรียวลิ้นเกี่ยวกระหวัดรัดรึงเก็บความหมอหวานจากคนตรงหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างเอาแต่ใจ



                มือเรียวเลื่อนขึ้นมาดันแผ่นอกกว้างออกห่างแต่ก็ถูกมือหนารวบไว้ เด็กหนุ่มดันร่างสูงโปร่งให้เอนลงไปนอนราบกับโซฟาตัวยาวก่อนที่เขาจะโถมตัวขึ้นคร่อม กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆดึงดูดให้สันจมูกโด่งต้องก้มลงไปสัมผัสซอกคอขาว กดจูบเบาๆสลับขบเม้มดุนดันจนมันปรากฏรอยแดงขึ้นมาจางๆ เรียวลิ้นร้อนแลบเลียไปตามผิวเนื้อนุ่มแสนเย้ายวน มือที่ว่างก็จัดการปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีอ่อนออกเพื่อให้สามารถรุกล้ำรังแกผิวกายเนียนละเอียดได้มากยิ่งขึ้น ทุกอย่างดูช่ำชองมากเสียจนคนเป็นครูแทบไม่อยากเชื่อว่านี่คือเด็กม.ปลายที่อายุแค่สิบเจ็ดปี..



                “อ๊ะ ..อย่า!..” ยิ่งได้ยินเสียงร้องห้ามก็เหมือนยิ่งยุ ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงไปดูดดุนยอดอกสีสวยจนคนใต้ร่างเผลอร้องเสียงหลง จองกุกพอใจในปฏิกิริยาตอบรับแสนน่ารักนั้นไม่น้อย ไม่นึกเลยว่าคนตรงหน้าจะเร้าอารมณ์เขาได้มากขนาดนี้ ยิ่งลิ้มลองยิ่งกลืนกินมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งห้ามใจให้หยุดเสพสมความหอมหวานจากเรือนร่างเย้ายวนตรงหน้าได้ยากเท่านั้น


                “พะ..พอแล้ว ไม่เอานะ!..” ร่างโปร่งส่งสายตาดุๆมาให้พลางออกแรงดันลาดไหล่หนั่นหนาออกห่างเมื่อคนตัวสูงกว่าเคลื่อนกายต่ำลงไปใกล้กลับส่วนไวต่อความรู้สึกที่สุด เด็กหนุ่มหยุดมือที่กำลังลูบไล้มาจนถึงขอบกางเกงไว้เพียงเท่านั้นก่อนจะหยัดตัวขึ้นมาประกบจูบแรงๆที่หนึ่งอย่างกลั่นแกล้งพร้อมกับกระซิบเสียงพร่าชิดริมฝีปากอิ่มสีแดงฉ่ำ


               “..ไม่ไหวแล้ว.. ขอนะ..”


“อย่า!.. อื๊ออ!” จองกุกไม่รับฟังคำห้ามปรามใดๆอีก มือหนาปลดเปลื้องอาภรณ์เบื้องล่างออกก่อนจะยกเรียวขาสีน้ำนมข้างหนึ่งขึ้นพาดกับพนักโซฟา ยิ่งเห็นคนใต้ร่างยกมือขึ้นมาปิดปากกลั้นเสียงครางพลางส่ายหน้าเหมือจะปฏิเสธแบบนั้นแล้วเขาก็ยิ่งได้ใจ..คนอะไรน่าแกล้งซะจริง..


ร่างสูงยกยิ้มมุมปากอย่างย่ามใจ มือหนาลูบไล้สัมผัสไปตามโคนขาขาวเนียนก่อนจะค่อยๆกดแทรกนิ้วเรียวเข้าไปในช่องทางอ่อนนุ่มช้าๆ คนใต้ร่างสะดุ้งทันทีเมื่อรับรู้ได้ถึงสิ่งแปลกปลอมที่อยู่ภายในร่างกาย ฟันคมกัดริมฝีปากอิ่มตึงเพื่อไม่ให้ส่งเสียงร้องออกไปจนเกือบได้เลือดขณะที่เขากำลังแกล้งหมุนวนนิ้วอยู่ด้านในเพื่อหาจุดกระสัน


“อืออ..ไม่..” ห้ามปรามอีกสักกี่ครั้งก็ไม่มีประโยชน์ใดๆ ความอุ่นร้อนแน่นตึงข้างในนั้นตอบสนองนิ้วเรียวเป็นจังหวะถี่ๆจนเด็กหนุ่มอดใจไม่ไหว ร่างสูงปลดซิปกางเกงนักเรียนขายาวลงจนสุด ดึงก้านนิ้วของตัวเองออกแล้วแทนที่ด้วยความคับเครียดแน่นตึงกลางลำตัวที่มีขนาดใหญ่กว่านั้นมาก


“อา... เชี่ย! แน่นว่ะ..” จองกุกเชิดหน้าขึ้นพลางขมวดคิ้วมุ่น ช่องทางคับแคบนั้นบีบรัดเขาจนแทบขยับไม่ได้ ...ไม่นึกเลยว่าจะยังแน่นขนาดนี้ ..ไม่น่าเชื่อจริงๆว่าคนตรงหน้าจะเคยผ่านมือผู้ชายคนอื่นมาก่อน..


ถึงจะค่อนข้างยากลำบากในตอนแรก แต่เด็กหนุ่มร่างสูงก็ฝืนขยับตัวเข้าหาความอุ่นร้อนนั้นอย่างห้ามใจไม่ไหว กดสวนสะโพกสอบอย่างเอาแต่ใจจนร่างโปร่งโยกคลอนไปตามจังหวะที่เขาเป็นคนควบคุม ..ความรู้สึกที่ได้รับมันดีเกินกว่าผู้หญิงคนไหนๆที่เขาเคยมีสัมพันธ์ทางกายด้วย ยิ่งได้สัมผัสกับผนังอ่อนนุ่มอุ่นร้อนโดยไม่มีเครื่องป้องกันมาขวางกั้นแบบนี้ยิ่งทำให้เขาแทบบ้า แรงรัดรึงถี่ๆภายในเรือนกายขาวผ่องนั้นสรรสร้างความรู้สึกสุขสมจนอดไม่ได้ที่จะต้องครางออกมาอย่างย่ามใจ


“ซี๊ดด... แม่ง..”


เสียงครางของเขากับคนข้างล่างดังประสานก้องไปทั้งห้อง มือหนายกขาเรียวข้างหนึ่งขึ้นพาดบ่าเพื่อให้แทรกกายเข้าไปได้ลึกยิ่งขึ้น สะโพกสอบขยับเข้าออกเป็นจังหวะรวดเร็วอยู่สักพัก ไม่นานคุณครูคนสวยก็เป็นฝ่ายกระตุกเกร็งปล่อยสายธารอารมณ์สีขุ่นออกมาก่อน จองกุกเร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆเมื่อเขาเองก็ใกล้จะถึงจุดหมายในไม่ช้า แต่ในวินาทีที่เขากำลังจะได้ขึ้นสวรรค์นั้น.. ที่บริเวณขมับก็รู้สึกได้ถึงปลายกระบอกปืนสีดำสนิทที่จ่ออยู่ในระยะเผาขน..


..และบุคคลที่สามที่ถือมันอยู่ก็กำลังจะปลดเซฟแล้วลั่นไก...


ปัง!!..
.
'
'





continue reading >> Caffeine










---------------------------------------------------------

NamJin Part






                 “อื๊ออ.. คุณ..เบาๆ..” เสียงหวานร้องห้ามเมื่อคนด้านบนกำลังโถมกายเข้าหาเขาอย่างใจร้อนทั้งที่เพิ่งสอดใส่เข้ามาได้ไม่นาน ช่องทางรักที่ยังไม่คุ้นชินกับความคับเครียดขนาดใหญ่ทำให้เขารู้สึกเจ็บแปลบทุกครั้งที่อีกคนขยับกาย แต่ถึงแม้จะกำลังต้องการจนแทบทนไม่ไหว คราวนี้ คิม นัมจุน ก็ยอมโอนอ่อนลดความเร็วลงให้ตามคำขอพร้อมกับหยัดตัวขึ้นไปประกบจูบแลกสัมผัสหวานฉ่ำอย่างเอาใจ


                รอจนร่างบอบบางประตัวกับสิ่งที่อยู่ภายในร่างกายได้แล้ว ร่างสูงก็ค่อยๆประคองกอดเอวคอดไว้แล้วพลิกตัวให้อีกคนเปลี่ยนมานั่งคร่อมอยู่ด้านบนทั้งที่ร่างกายส่วนล่างยังเชื่อมกันอยู่ ใบหน้าคมคายโน้มลงมากดจูบลงที่ปลายคางมน ไล่เรื่อยไปตามสันกรามนูนสวยแล้วหยุดกระซิบเสียงพร่าที่ข้างใบหูนุ่ม


                “..ขยับหน่อยสิ..”


                อยากจะไม่ทำตามแต่ก็หักห้ามความต้องการของตัวเองไม่ได้ เสียงทุ้มแสนมีเสน่ห์ของคนที่โอบกอดเขาไว้คล้ายกับจะสะกดให้ร่างกายเริ่มขยับขึ้นลงอย่างช้าๆ มือใหญ่ช่วยประคองสะโพกมนแล้วสวนกายกลับขึ้นมาเป็นระยะ ซอกจินก้มหน้าจนคางแทบชิดอกเพราะไม่เคยต้องทำอะไรน่าอายแบบนี้มาก่อน หากแต่คนด้านล้างก็ยังคงกลั่นแกล้งเขาด้วยการเชยปลายคางมนบังคับให้เขาต้องเงยหน้าขึ้นไปสบสายตาร้อนแรงคู่นั้นอยู่ดี


                “รู้สึกดีไหม?” กดจูบหนักๆลงทีหนึ่งแล้วกระซิบถามชิดริมฝีปากอิ่มตึงแสนสวย สีหน้าท่าทางของคนที่กำลังขยับโยกอยู่บนตัวเขาตอนนี้ทำให้อดไม่ได้ที่จะต้องกระแทกกายสวนกลับไปในจังหวะที่ถี่รัวขึ้นขึ้น แม้จะเคลิบเคลิ้มรัญจวนใจแค่ไหน แต่ดูเหมือนว่าอีกคนก็ยังคงกระดากอายไม่ยอมเอื้อนเอ่ยความรู้สึกของตัวเองออกมาเสียที เห็นแบบนั้นเขาจึงต้องกระตุ้นด้วยการกอบกุมแกนกลางสีชมพูสวยเอาไว้แล้วรูดขึ้นลงช้าๆพร้อมกับถามย้ำอีกครั้ง 


                 “..ว่ายังไง หืม?..”


                ซอกจินกัดปากพลางพยักหน้าตอบรับคำถามนั้นช้าๆด้วยความเขินอาย ปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่ารู้สึกดีขนาดไหนตอนที่ร่างสูงได้เข้ามาเติมเต็มร่างกายเขาเช่นนี้ ความเจ็บค่อยๆเปลี่ยนเป็นความซ่านเสียวที่แทรกซึมไปทุกส่วน สมองขาวโพลนเหมือนกำลังล่องลอยอยู่บนสรวงสวรรค์ ...คล้ายกับเสพสมคาเฟอีนในปริมาณมากเข้าสู่กระแสเลือด ปล่อยให้มันควบคุมระบบประสาท กระตุ้นการหลั่งซีโรโทนินให้สุขสมมากเสียจนรู้สึกว่าขาดไม่ได้..




continue reading >> Caffeine




วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2559

[OS] : Nicotine - NamJin (cut)




               “แต่ฉันยังไม่ง่วงนี่..” 


               นัมจุนเอ่ยอย่างเอาแต่ใจก่อนจะพลิกตัวขึ้นมาคร่อมเอาไว้โดยไม่ได้ยี่หระต่อเสียงห้ามปรามจากคนใต้ร่าง จัดการหยุดเสียงบ่นน่ารำคาญด้วยรสจูบดูดดื่มที่บดเบียดลงไปบนเรียวอิ่มตึงอย่างเร่งเร้า ฟันคมขบลงที่ริมฝีปากล่างเพื่อให้อีกคนยอมเปิดทางให้ลิ้นร้อนได้แทรกเข้าไปรุกล้ำเก็บเกี่ยวความหอมหวานจากภายใน แลกสัมผัสชื้นแฉะในโพรงปากอุ่นจนเกิดเสียงที่ชวนให้แก้มใสต้องขึ้นสีระเรื่อ คำห้ามปรามต่างๆนานาเริ่มเปลี่ยนเป็นเสียงครางอื้ออึงในลำคออย่างห้ามไม่ได้เมื่อร่างสูงเกี่ยวกระหวัดรุกล้ำอย่างช่ำชองเสียจนเกือบลืมหายใจ


                คนด้านบนละริมฝีปากออกด้วยความเสียดายเพราะแรงบีบและแรงทุบตีที่หัวไหล่หนาบอกให้เขารู้ว่าควรจะพอก่อนที่อีกคนจะขาดอากาศหายใจไปเสียก่อน แต่มีหรือที่ คิม นัมจุน จะหยุดอยู่เพียงเท่านั้น ปล่อยให้ร่างบอบบางพักหอบหายใจเอาออกซิเจนเข้าปอดได้ไม่นาน เขาก็บดเบียดริมฝีปากลงไปใหม่ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง มือหนาเลื่อนลงไปริดกระดุมชุดนอนสีเข้มออกทีละเม็ดทีละเม็ด ผิวขาวเนียนไร้รอยตำหนาที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าเรียกให้เขาต้องโน้มลงไปฝากฝังรอยรักสีสวยไว้บนลาดไหล่กว้างและแผ่นอกบางอย่างย่ามใจ


                “อ๊ะ..คุณ..” หลับตากัดปากตัวเองเพื่อไม่ส่งเสียงน่าอายออกไปแต่ก็ดูเหมือนจะทำได้ยากเย็นเหลือเกินในตอนที่คนด้านบนกำลังลงลิ้นหยอกล้อกับยอดอกสีระเรื่อข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างก็ใช้มือคลึงเล่นอย่างปลุกเร้าอารมณ์ ซอกจินนึกเกลียดร่างกายไม่รักดีของตัวเองขึ้นมาทันทีที่มันช่างแสนซื่อตรงและยอมโอนอ่อนให้กับคนตรงหน้าง่ายๆ แม้ในความคิดจะพยายามปฏิเสธเท่าไหร่ แต่สุดท้ายเขาก็ต้องเผลอแอ่นอกรับสัมผัสซ่านเสียวนั้นอย่างลืมตัวทุกครั้ง


                “ร้องดังๆได้ไหม..อยากฟัง” ร่างสูงเงยหน้าขึ้นมากระซิบชิดริมฝีปากนุ่ม ก่อนจะแกล้งสอดมืออุ่นร้อนต่ำลงไปในกางเกงนอนตัวบางเมื่อเห็นคนใต้ร่างรีบยกมือขึ้นมาปิดปากแล้วส่ายหน้าเป็นเชิงปฏิเสธ เขาเลื่อนมืออ้อมไปด้านหลัง สอดผ่านชั้นในแล้วเคล้นคลึงเนื้อนิ่มกลมกลึงอย่างสนุกมือ ในขณะที่สันจมูกโด่งก็เริ่มไล้ไปตามต้นขอขาวเนียนโดยไม่สนใจคนด้านล่างที่พยายามดันแผ่นอกแกร่งออกห่าง


                “มะ..ไม่เอา.. พอแล้ว” เสียงหวานร้องห้ามอีกครั้งเมื่อร่างสูงปลดเปลื้องอาภรณ์ทุกชิ้นของเขาลงไปกองอยู่ข้างเตียง เรียวขาสีน้ำนมขยับเข้าหากันอย่างเขินอายเพราะสายตาร้อนแรงจ้อมองมาที่เรือนร่างของตน แต่อีกคนก็ยังไม่หยุดแกล้ง มือหนาค่อยๆจับขาเรียวทั้งสองข้างตั้งชันขึ้นแล้วแยกออกจากกับช้าๆ เรียกสีเลือดฝาดจางๆให้ระบายบนพวงแก้มใสจนคนคนถูกมองต้องเสหน้าหลบไปทางอื่น


                “..อย่ามอง...”


                “ห้ามได้ด้วยเหรอ หืม?..” ยกยิ้มมุมปากก่อนจะเลื่อนมือลงไปกอบกุมส่วนไวต่อความรู้สึกแล้วเริ่มขยับขึ้นลงเบาๆ ดวงตากลมสีดำขลับตวัดมองกลับมาที่เขาดุๆเหมือนจะต่อว่าในคำพูดเอาแต่ใจแบบนั้น แต่ไม่นานก็ต้องซบหน้าลงกับบ่าแกร่งเมื่อมือใหญ่แกล้งขยับไหวให้เร็วขึ้น

                คนใต้ร่างผวากอดเขาแน่น จิกเล็บลงกับลาดไหล่หนาเพื่อระบายความเสียวซ่านที่ได้รับจาดอุ้งมือร้อน ซอกจินกัดปากตัวเองจนเกือบได้เลือดเพื่อไม่ให้ส่งเสียงน่าอายออกไปในตอนที่อารมณ์กำลังขึ้นถึงจุดสูงสุดและปลดปล่อยแรงรักสีขาวขุ่นออกมาเต็มมือใหญ่


                “อยากร้องก็ร้องออกมาสิ เก็บไว้ทำไม?” ยกมือขึ้นมาลูบริมฝีปากอิ่มตึงแผ่วเบาทว่าอีกคนก็สะบัดหน้าหนีอย่างไม่ใยดี


                “..ไม่..” คำปฏิเสธเสียงแข็งของ คิม ซอกจิน เรียกรอยยิ้มมุมปากจาก คิม นัมจุน ได้เป็นอย่างดี ร่างกำยำโน้มลงไปกระซิบชิดใบหูนุ่มแล้วแกล้งสอดลิ้นร้อนเข้าไปข้างในอย่างยั่วเย้า


                “สาบานได้ว่าต่อไปนายจะไม่พูดแบบนี้.. ที่รัก..”


                ร่างสูงหยัดตัวขึ้นเอื้อมไปหยิบของบางอย่างออกมาจากลิ้นชักบนโต๊ะใกล้ๆหัวเตียง เขาแกะซองสีแดงมันวาวออกพลางปลดกางเกงนอนตัวเองลงแล้วสวมมันกับส่วนแข็งขืนที่กำลังขยายตัวอย่างเต็มที่ นัมจุนโถมตัวลงมาทาบทับอีกครั้ง ค่อยๆกดแทรกแกนกายอุ่นร้อนเข้าไปภายในช่องทางคับแคบ เล็บคมจิกครูดแผ่นหลังกว้างเป็นทางยาวเมื่อคนข้างบนเริ่มออกแรงเคลื่อนกายเข้าออกเร็วและแรงขึ้นเรื่อยๆ ส่วนไวต่อความรู้สึกกดเน้นย้ำๆตรงจุดกระสัน ความซ่านเสียวแทรกซึมไปทั่วสรรพางค์กายจนร่างบอบบางบิดเร่าและอดไม่ได้ที่จะต้องร้องครางเสียงหวาน ...ไม่มีสักครั้งที่ คิม ซอกจิน จะต้านทานผู้ชายตรงหน้าได้ คิม นัมจุน รู้ดีเสมอว่าต้องทำอะไรตรงไหนเขาถึงจะยอมโอนอ่อนผ่อนปรนให้โดยดี


                “อืมม..” ร่างหนั่นหนาครางเสียงต่ำในลำคอเมื่อรู้สึกได้ถึงความอุ่นร้อนด้านในที่โอบรัดเขาไว้เป็นจังหวะถี่ๆจนแทบคลั่ง และเขาเองก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเองกำลังหลงใหลคลั่งไคล้คนคนนี้อย่างถอนตัวไม่ขึ้น ไม่ต่างอะไรกับที่ตัวเขาเองติดสารพิษแสนหอมหวานพวกนั้น...





continue reading >> Nicotine



วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2559

[OS] : Toxin - TaeJin (cut)




                 สิ้นคำหวานที่กระซิบลงข้างหู ริมฝีปากสองคู่ก็บดเบียดเข้าหากันอีกครั้ง ป้อนรสจูบดูดดื่มซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่รู้เบื่อ กามอารมณ์ที่ถูกเก็บกักไว้นานทะลักทลายเอ่อล้นข้ามกำแพงแห่งศีลธรรมออกมาโดยไม่อาจย้อนกลับ ไฟรักที่โหมกระหน่ำมอดไหม้ทุกกฎข้อห้ามให้แหลกเป็นเถ้าธุลี สองร่างกอดรัดโรมรันแนบแน่น ความปรารถนาเกี่ยวรั้งหลอมรวมจนกลายเป็นหนึ่งเดียวกัน


                “..อ๊ะ.. อย่ากัด พี่เจ็บ..” ซอกจินร้องครางเสียงหวานเมื่อเสื้อที่สวมอยู่ถูกถอดออกไปและยอดอกสีชมพูสวยก็ถูกดูดเม้มขบกัดจนกลายเป็นสีแดงก่ำน่ามอง ใบหน้าหวานแหงนเงยไปด้านหลัง แค่ถูกกระตุ้นเพียงเล็กน้อยเขาก็ตื่นตัวตอบสนองต่อทุกการกระทำของร่างสูงเป็นอย่างดี สัมผัสแสนคุ้นเคยที่โหยหาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันทำให้เขาสูญเสียความเป็นตัวเองไปอย่างสิ้นเชิง


                แทฮยองถอดเสื้อลายสก็อตที่สวมอยู่ออกไปวางบนพื้นทราย ประคองร่างบอบบางให้เอนกายนอนลงไปตรงผ้าที่ปูไว้ก่อนจะตามลงไปคร่อมทับ อาภรณ์ชื้นอื่นๆของคนใต้ร่างถูกลิดรอนออกไปจนเรือนกายขาวผ่องเปลือยเปล่า ซอกจินเอ่ยขอร้องให้กลับไปยังบ้านพักเพราะกลัวจะมีใครผ่านมาเห็นเข้า แต่คนใจร้ายก็เลือกที่จะไม่สนใจ มือหนาจับเรียวขาสีน้ำนมแยกออกกว้าง เปิดทางให้รุกล้ำส่วนอ่อนไหวแสนซื่อตรงต่อความรู้สึกได้โดยง่าย ใบหน้าคมคายโน้มลงไปปลุกเร้าแกนกลางความรุ่มร้อนอย่างเอาอกเอาใจ นิ้วยาวค่อยๆกดแทรกเข้าไปในช่องทางอ่อนนุ่มช้าๆ แรงบีบรัดแน่นตึงที่ไม่ได้เสพสมมานานทำเอาเขาแทบอดใจไม่ไหว อยากจะสอดใส่อย่างอื่นเข้าไปแทนเสียเดี๋ยวนั้น


                “..แทฮยอง.. อื๊อ..” ซอกจินยกมือขึ้นมาปิกปากเอาไว้ แม้จะกังวลว่าจะมีสายตาของใครจับจ้องการกระทำของเราสองคนอยู่หรือไม่ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสถานการณ์แบบนี้มันช่างตื่นเต้นเสียวกระสันจวนจะไปแตะถึงขอบสวรรค์เอาได้ง่ายๆ เอวบางบิดเร่าเมื่อนิ้วเรียวที่แทรกเข้ามาด้านหลังเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ความเจนจัดช่ำชองของอีกคนทำเอาดวงตาของเขาพร่าเลือนไปหมด


                เด็กหนุ่มรู้ดีว่าต้องทำอย่างไร ต้องกระตุ้นตรงไหน คนใต้ร่างจึงจะยอมโอนอ่อนผ่อนปรนให้ทุกอย่าง ใช้เวลาไม่นานคุณหมอคนสวยของเขาก็ปลดปล่อยความต้องการระลอกแรกออกมาจนหมดสิ้น ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะบรรยากาศและสถานที่ที่เร่งเร้าให้อีกคนไปถึงจุดสูงสุดของความปรารถนาได้เร็วกว่าครั้งไหนๆ ไม่รอให้ร่างบอบบางได้สุขสมอยู่เพียงฝ่ายเดียว เขาก็ปลดกระดุมกางเกงและรูดซิปโลหะลงจนสุด มือใหญ่ชโลมน้ำสีขุ่นที่เปรอะเปื้อนอยู่บนหน้าท้องแบนราบไปตามส่วนแข็งขืนของตัวเองที่กำลังขยายตัวอย่างเต็มที่แทนสารหล่อลื่น ในเวลาแบบนี้ไม่มีอุปกรณ์อะไรให้เตรียมพร้อมมากนัก แม้แต่เครื่องป้องกันที่เคยสวมใส่ทุกครั้งก็ไม่รู้จะไปหามาจากที่ไหน ..แต่เอาเถอะ ต่อให้หาได้ นาทีนี้เขาก็ไม่อยากจะใช้มันอยู่ดี


                “ไม่ใส่ถุงยางสักครั้งคงไม่เป็นไรใช่ไหมครับคุณหมอ?” เอ่ยยั่วเย้าชิดริมฝีปากอิ่มสวยก่อนจะแทรกสอดความคับเครียดดุดันเข้าไปในช่องทางอุ่นร้อนทีเดียวจนสุดความยาว ซอกจินกัดปากพลางกอดรัดแผ่นหลังกว้างเอาไว้แน่น น่าแปลกที่สัมผัสรุนแรงและคำพูดหยาบโลนพวกนั้นกลับกระตุ้นความต้องการของเขาได้ดีกว่าที่เคย สายตาร้อนแรงจ้องมองมาราวกับจะแผดเผาให้เขามอดไหม้หลอมละลายอยู่ภายใต้ร่างกายแข็งแรงนั้น และมันยิ่งรู้สึกเหมือนจะขาดใจเสียให้ได้เมื่อสะโพกสอบเริ่มขยับไหวเป็นจังหวะหนักหน่วงโดยไร้ซึ่งพื้นผิวเรียบลื่นของเครื่องป้องกันมาขวางกั้น


                ร่างทั้งร่างโยกคลอนไปตามแรงที่คนด้านบนชักนำ ก่อนที่จะได้แตะขอบสวรรค์อีกครั้งร่างสูงก็ถอนกายออกโดยไม่บอกกล่าว ความวูบโหวงในช่องท้องทำเอาซอกจินต้องร้องครางประท้วงอย่างลืมตัว ซึ่งอีกฝ่ายก็รู้ดีว่าเขากำลังร้อนรุ่มทรมานแทบขาดใจจึงไม่ปล่อยให้อารมณ์รักขาดห้วงไปนานนัก มือหนาฉุดเขาให้ลุกขึ้นยืนก่อจะจัดท่าทางให้ใหม่ กลายเป็นว่าคุณหมอคนสวยกำลังยืนหันหน้าเข้ากับโขดหิน สองมือค้ำยันแผ่นหินเย็นเยียบเอาไว้ สะโพกมนถูกกดให้แอ่นโค้งรองรับร่างแกร่งที่แทรกกายเข้ามาด้านหลังอีกครั้ง


                ซอกจินเชิดหน้าร้องครางอย่างสุขสมเมื่อความคับเครียดขนาดใหญ่สอดใส่เข้ามาได้ลึกยิ่งขึ้น ลิ้นร้อนที่ทำให้เขาระทดระทวยมานับครั้งไม่ถ้วนลากไล้ไปตามต้นคอไล่ลงมายังลาดไหล่กว้าง หยุดจดจูบดูดดึงผิวเนื้อเนียนละเอียดแรงๆจนขึ้นรอยรักสีแดงสดประปรายไปทั่ว ใบหน้าหวานถูกประคองให้หันกลับไปรับจุมพิตลุ่มลึกจากคนที่ทาบทับอยู่ด้านหลัง โลมเล้าเคล้าคลออยู่เนิ่นนานจนเสร็จสมอารมณ์หมายไปพร้อมๆกัน







continue reading >> Toxin


วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

[SF] :: 14th Heaven - KookJin[3] (cut)




 ออรัลให้หน่อยสิ


มือเรียวกำเข้าหากันแน่น ครุ่นคิดอยู่นานเป็นนาที ท้ายที่สุดความยับยั้งชั่งใจและความรู้สึกผิดชอบชั่วดีก็พ่ายแพ้ให้แก่ความกระสันอยากที่มีมากกว่าสิ่งใด กลิ่นสารระเหยบางเบาที่ลอยวนอยู่ในอากาศเรียกร้องให้ขยับกายเข้าหา ซอกจินเดินมาคุกเข่าลงตรงกลางหว่างขาของคนอายุน้อยกว่า เอื้อมมือสั่นเทาไปปลดเข็มขัดหนังราคาแพงออก ตามด้วยกระดุมกางเกงและซิบสีเงินที่ถูกปลดเปลื้องเป็นลำดับถัดไป เขาร่นชั้นในสีเข้มลง กอบกุมแกนกลางลำตัวที่ยังขยายไม่เต็มที่ไว้ในอุ้งมือร้อน รูดรั้งมันเบาๆด้วยความกล้าๆกลัวๆ จนอีกคนต้องออกคำสั่งเสียงเข้ม


“ให้ใช้ปาก ไม่ได้ให้ใช้มือ” ดวงตากลมโตตวัดมองอย่างไม่พอใจกับคำเร่งรัดนั้น ยิ่งเห็นว่าเขาเสียเปรียบคนใจร้ายก็ยิ่งกลั่นแกล้ง ชั่วครู่หนึ่งที่ซอกจินมีความคิดว่าอยากเลิกทำ แต่เมื่อเห็นร่างสูงนำคริสตัลมาเสพให้ดูต่อหน้าอีกครั้ง เขาก็กลั้นใจจรดริมฝีปากลงไปบนแท่งเนื้อที่เริ่มจะแข็งขืนสู้มืออย่างเสียไม่ได้ อาการปวดหัวที่กำเริบขึ้นมาอีกรอบบีบบังคับให้ต้องลงมือทำโดยไม่มีทางเลือก


 ปากอวบอิ่มกดจูบเบาๆที่ส่วนปลาย ไล่เรื่อยไปยังโคนและวกกลับมาลงลิ้นหนักๆที่รอยหยักตรงกลาง เรียวลิ้นอุ่นร้อนลากสัมผัสชื้นแฉะไปตามความยาว ทำต่อเนื่องอยู่สองสามครั้งแล้วก็เปลี่ยนเป็นครอบครองความรุ่มร้อนทั้งหมดเข้าไปในโพรงปาก เขาขยับศีรษะขึ้นลงพร้อมกับดูดดุนท่อนเอ็นขนาดใหญ่จนเกิดเสียงดังไปทั่วห้องกว้าง ใบหน้าหวานเห่อร้อนแดงก่ำด้วยความอายปนกับความรู้สึกผิดต่อเพื่อนสนิท ต่างจากคนถูกปรนเปรอที่ครางเบาๆในลำคออย่างพึงพอใจและคว้าแก้วไวน์แดงที่วางอยู่บนโต๊ะใกล้ๆมาดื่มอย่างสบายอารมณ์


“..อื้อ..” ซอกจินเผลอร้องออกมาเมื่อส่วนแข็งขืนขยายตัวเต็มที่จนพองคับปากไปหมด เขาโลมเลียมันลำบากขึ้นจนต้องใช้มือเข้าช่วยชักรูดส่วนโคนถี่ๆขณะที่ริมฝีปากก็ยังครอบอมส่วนหัวไว้ด้วยจังหวะหนักหน่วงจนเริ่มมีน้ำสีขุ่นปริ่มออกมาตรงปลายยอด


“...อืม..พอก่อน..” จองกุกใช้มือข้างที่ว่างจากการจับแก้วทรงสูงเชยปลายคางมนขึ้นมา น้ำใสๆที่เชื่อมโยงเป็นสายระหว่างแกนกายของเขากับปากอิ่มของคนที่นั่งคุกเข่าอยู่กลางหว่างขาช่างเป็นภาพที่อีโรติกอย่างบอกไม่ถูก แม้เสื้อผ้าจะยังไม่ถูกลิดรอนออกไปจากกายบางสักชิ้น แต่มันก็กระตุ้นอารมณ์ดิบในส่วนลึกได้ไม่น้อยทีเดียว


ซอกจินทำหน้างุนงงที่คนเอาแต่ใจยอมให้หยุดการกระทำง่ายๆ เขาเกือบจะคิดว่าอีกฝ่ายใจดีกว่าที่คาดไว้ แต่ไม่นานความคิดนั้นก็ต้องพังครืนลงไปเพราะประโยคคำสั่งเห็นแก่ได้เอื้อนเอ่ยเป็นลำดับต่อมา


 “ช่วยตัวเองซิ”


“..อะไรนะ?..”


“อย่าลีลา ผมรู้ว่าพี่เก่งเรื่องแบบนี้”


เป็นอีกครั้งที่ซอกจินกลืนไม่เข้าคายไม่ออกกับคำประกาศิตแสนร้ายกาจ แม้ภายในใจส่วนลึกจะเอ่ยคัดค้าน แต่ความกระดากอายเหล่านั้นก็ถูกแรงปรารถนาบดบังกดทับจนเลือนรางแทบมองไม่เห็น นาทีนี้เขาไม่รู้ว่าความถูกต้องหน้าตาเป็นแบบไหน รู้แค่ว่าต้องทำให้คนตรงหน้าพอใจ เขาจึงจะได้ในสิ่งที่ต้องการ


ร่างผอมบางขยับไปนั่งบนพรมขนสัตว์ผืนใหญ่ด้านหน้าโซฟาตัวยาว สองมือค่อยๆรั้งกางเกงยีนส์ออกไปจากเรียวขาสีน้ำนมไร้รอยตำหนิ ใช้เวลาเพียงชั่วอึดใจร่างกายท่อนล่างก็เปลือยเปล่า เขาชันขาทั้งสองข้างขึ้น ลูบไล้ฝ่ามือและปลายนิ้วไปตามแผ่นอก หน้าท้อง และเอื้อมลงมากอบกุมส่วนไวต่อสัมผัสเอาไว้


“อ้าขากว้างๆ” น่าแปลกที่ซอกจินดันมีอารมณ์ง่ายๆกับคำพูดหยาบโลนและสายตาร้อนแรงคู่นั้น เรียวขาขยับแยกออกจากกันตามคำสั่ง เผยให้เห็นส่วนสัดแสนน่ามองตั้งแต่แกนกลางลำตัวสีชมพูสวยไปจนถึงช่องทางอ่อนนุ่ม มือข้างหนึ่งเริ่มเคลื่อนไหวขึ้นลงช้าๆ ครั้งแรกกับการปรนเปรอตัวเองให้คนอื่นดูมันชวนให้รู้สึกขัดเขินไม่น้อย แต่เขาก็ไม่ได้ไร้เดียงสาจนไม่กล้าที่จะทำ


“...อา...” ครางออกมาเบาๆในตอนที่ส่งก้านนิ้วยาวชำแรกเข้าไปในช่องทางด้านหลัง เมื่อเริ่มคุ้นชินก็แทรกนิ้วที่สองเพิ่มเข้ามา ซอกจินเงยช้อนมองเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่บนโซฟา แต่เพียงครู่เดียวก็ต้องเสใบหน้าเห่อร้อนหลบสายตาคมกริบไปทางอื่น ไม่รู้ว่าเด็กอายุสิบเก้าอย่าง จอน จองกุก เจนจัดช่ำชองกับเรื่องแบบนี้ขนาดไหน ถึงยังคงนั่งจิบไวน์อย่างสบายอกสบายใจราวกับการกระทำเข้าข่ายวิตถารนี้เป็นเรื่องปกติ ต่างจากเขาที่เขินอายจนร่างกายร้อนรุ่มไปหมด


  เครื่องดื่มสัญชาติฝรั่งเศสสีแดงสดอมม่วงพร่องไปเกือบครึ่งแก้ว ปฏิเสธไม่ได้ว่าไวน์ชั้นเลิศกับเรือนร่างบอบบางบนพื้นพรมขนสัตว์ช่างเข้ากันอย่างน่าประหลาด เพียงแค่จับจ้องด้วยสายตาก็พาให้ความคบเครียดแน่นตึงช่วงกลางลำตัวปวดหนึบ เสียงร้องหวานหูในตอนที่มือเรียวคู่นั้นชักนำตัวเองไปถึงปลายทางแห่งความปรารถนาเป็นเสมือนตัวกระตุ้นให้เลือดในกายพลุ่งพล่าน เมื่อของเล่นชิ้นที่สิบสี่ทำผลงานได้น่าพอใจ เขาก็ลุกไปหยิบรางวัลมามอบให้ตามสัญญา


ซอกจินหอบหายใจอย่างเหนื่อยล้าหลังจากปลดปล่อยไปหนึ่งรอบ ดวงตากลมโตมองตามแผ่นหลังกว้างที่เดินไปหยิบอะไรบางอย่างก่อนจะวกกลับมาหา เด็กหนุ่มตัวสูงย่อตัวลงนั่งใกล้ๆ ดึงแขนข้างซ้ายเขาไปแล้วใช้นิ้วโป้งกดคลึงตรงข้อพับ วินาทีนั้นเขาเห็นกระบอกฉีดยาบรรจุสารสีใสที่อีกคนถือไว้ในมือขวา ปลายเข็มสีเงินวาววับสะท้อนกับแสงไฟ ...ไม่รอให้เอ่ยถามอะไร เด็กหนุ่มก็จัดการจรดวัตถุแหลมคมลงกับผิวเนื้อเนียน แทงทะลุส่วนที่เป็นหลอดเลือดดำแล้วฉีดของเหลวไร้สีเข้าไปจนหมดทุกหยาดหยด


“รางวัลของพี่ เอาไปหนึ่งเข็มก่อนนะครับ”


“..อ๊า!..” เผลอกรีดร้องเสียงสูงเพราะความเจ็บแปลบที่เกิดขึ้นบริเวณข้อพับโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ซอกจินหลับตาเชิดใบหน้าขึ้นเมื่อยาเริ่มออกฤทธิ์ ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีเมทแอมเฟตามีนก็แทรกซึมเข้าสู่ทุกอณูในร่างกาย อาการปวดศีรษะที่มีก่อนหน้านี้ค่อยๆทุเลาลงจนหายเป็นปลิดทิ้ง ความทรมานถูกเยียวยารักษาและแทนที่ด้วยความรู้สึกปลอดโปร่งซาบซ่าน สมองของเขาว่างเปล่าขาวโพลน ตัวก็เบาหวิวอย่างควบคุมไม่ได้ ถูกพาเข้ามาในห้องนอนตอนไหนก็ไม่รู้ แม้แต่ตอนที่ร่างสูงผลักลงไปนอนราบกับลานเตียงกว้างเขาก็ยังไม่ขัดขืน


เด็กหนุ่มอายุอ่อนกว่าแต่มากด้วยประสบการณ์ตามมาโถมตัวขึ้นคร่อม ใบหน้าคมคายจ้องมองมาด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก ซอกจินจำอะไรไม่ได้มากนัก มีเพียงรอยยิ้มมุมปากคล้ายกับจะเย้ยหยันที่ยังคงติดตา และเสียงทุ้มแหบพร่าที่กระซิบลงข้างหู


“ยินดีต้อนรับเข้าสู่สวรรค์ชั้นสิบสี่อย่างเป็นทางการ”


ริมฝีปากหยักประกบลงมาอย่างจาบจ้วงเอาแต่ใจ ขบกัดจนเรียวปากอิ่มแทบปริแตก ก่อนจะไล่เรื่อยไปตามผิวกายขาวผ่องตั้งแต่ต้นคอลงมาจนถึงเนินอก เสื้อผ้าอาภรณ์ถูกปลดเปลื้องลงไปกองบนพื้นข้างเตียงอย่างไม่ใส่ใจ ร่างเปลือยเปล่าของคนสองคนโรมรันกอดรัดมอบสัมผัสร้อนรุ่มให้แก่กัน ฤทธิ์สารเสพติดที่รับเข้าไปก่อนหน้านี้เป็นเหมือนเชื้อเพลิงชั้นดีที่กระตุ้นให้ไฟสวาทโหมกระหน่ำ


“..อ๊ะ.. อื๊ออ..” เสียงหวานร้องครางอย่างไม่อาจกลั้น ลิ้นร้อนหยอกเย้ากับยอดอก มือหนาลูบไล้บีบเค้นไปทั่วร่าง ทุกอย่างที่ประกอบกันเป็นผู้ชายชื่อ จอน จองกุก กำลังแผดเผา คิม ซอกจิน ให้หลอมละลาย ยิ่งเมื่ออีกฝ่ายสอดใส่ความแข็งขืนดุดันเข้ามาในช่องทางรัก ดวงตากลมโตก็พร่าเลือนไปหมดเพราะความวาบหวามรัญจวนใจที่ตีตื้นขึ้นมาจนเหมือนจะสำลักความสุขสมนี้เสียให้ได้


จังหวะการกระแทกกระทั้นหนักหน่วงรุนแรงแทบลืมหายใจ สารเสพติดแสนอันตรายกระตุ้นให้ร่างกายไวต่อสัมผัสไปเสียทุกส่วน แม้จะมีพื้นผิวเรียบลื่นของเครื่องป้องกันสีใสมาขวางกั้นไว้ แต่ซอกจินก็รู้สึกถึงตัวตนขนาดใหญ่ของคนที่กำลังร่วมรักอยู่ได้อย่างชัดเจน ความกระสันเสียวเอ่อล้นจนต้องหลั่งน้ำตา คล้ายกับจะมองเห็นแสงสว่างจากปลายทางแห่งแรงปรารถนาอยู่รำไร ...ซอกจินไม่รู้ว่าสวรรค์มีทั้งหมดกี่ชั้น ..ห้า ..หรือ เจ็ด ..หรือ เก้า ทว่าวินาทีนี้เขาเหมือนจะล่องลอยไปได้สูงกว่านั้นมาก ...บางที เขาอาจจะกำลังอยู่บนสวรรค์ชั้นที่สิบสี่อย่างที่อีกคนว่าเอาไว้จริงๆก็ได้


“...จองกุก..อ๊ะ..จองกุก..” เรียวปากอิ่มพร่ำเอ่ยชื่อคนด้านบนซ้ำๆ เรือนร่างบอบบางโยกคลอนไปตามแรงที่สะโพกสอบกดสวนเข้ามา เล็บคนจิกครูดแผ่นหลังกว้างเป็นทางยาวเพื่อระบายความเสียวซ่าน ร่างหนั่นหนาโถมกายเข้าหาความอุ่นร้อนที่โอบรัดตัวตนเอาไว้จนแทบคลั่งอยู่สักพัก ไม่นานสายธารอารมณ์สีขุ่นของคนสองคนก็ถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมๆกัน






continue reading >> 14th Heaven [3]